แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยได้เข้าครอบครองที่นาตั้งแต่ก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายที่ดินและจำเลยมีสิทธิครอบครองอยู่ตลอดมา ประมวลกฎหมายที่ดินตามมาตรา 9 ระบุว่า ที่ดินของรัฐนั้นถ้ามิได้มีสิทธิครอบครอง ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปยึดถือครอบครอง เมื่อจำเลยมีสิทธิครอบครองอยู่ดังว่าแล้ว ก็ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 9 จึง ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 108 ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกทำลายหนองสาธารณะ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360, 362, 365 พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 17, 22 ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108
จำเลยต่อสู้ว่า ไม่ใช่หนองสาธารณะ เป็นที่ ๆ จำเลยครอบครองมา
ศาลแขวงขอนแก่นไต่สวนแล้ว สั่งคดีมีมูลเฉพาะตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108 เมื่อพิจารณาแล้วฟังว่า ที่พิพาทอยู่ในเขตหนองสาธารณะ จำเลยเข้าไปยึดถือครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตพิพากษาว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108 ปรับคนละ 200 บาท
จำเลยที่ 1 ถึง 5 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยต่างเข้าครอบครองที่พิพาทก่อนใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีไม่เข้ามาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินจำเลยไม่มีความผิดโดยที่เป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษาถึงจำเลยที่ 6 ซึ่งมิได้อุทธรณ์ได้ด้วย จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ปล่อยจำเลยทุกคน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว คดีนี้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯพ.ศ. 2499 มาตรา 22 ห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง เพราะศาลแขวงลงโทษปรับจำเลยคนละ 200 บาท ศาลฎีกาคงวินิจฉัยเฉพาะข้อกฎหมายเท่านั้นเห็นว่า ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยได้เข้าครอบครองทำนาตั้งแต่ก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน และจำเลยมีสิทธิครอบครองอยู่ตลอดมาประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9 ระบุว่า ที่ดินของรัฐนั้น ถ้ามิได้มีสิทธิครอบครอง ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปยึดถือครอบครอง ก็เมื่อจำเลยมีสิทธิครอบครองอยู่ดังว่าแล้ว ก็ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 9 จึงลงโทษตามมาตรา 10 ไม่ได้ ศาลฎีกาพิพากษายืน