แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือมิฉะนั้นก็ฐานรับของโจรแต่ไม่ได้ระบุกฎหมายอาญา มาตรา 321ลงในคำขอให้ลงโทษท้ายฟ้อง จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร โจทก์จึงขอเพิ่มเติม มาตรา 321 ลงในท้ายคำขอให้ลงโทษเช่นนี้ศาลอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมได้
ย่อยาว
อัยการโจทก์และผู้เสียหายร่วมกันฟ้องว่ามีโจรลักโคของนายพั่งหนูทองคำผู้เสียหายไป 1 ตัวมีคนเห็นจำเลยกับพวกพาโคไปทั้งนี้จำเลยกับพวกเป็นโจรลักโคไปหรือมิฉะนั้นก็ได้สมคบกันรับเอาโคไว้จากโจรโดยรู้อยู่แล้ว จำเลยกับพวกสมคบกันฆ่าโคโดยไม่ได้รับอนุญาตขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นสืบพยานยังไม่ทันหมดปาก จำเลยขอถอนคำให้การเดิมรับสารภาพในฐานความผิดรับของโจรและฐานฆ่าโคไม่รับอนุญาต อัยการโจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องโดยเพิ่มกฎหมายอาญา มาตรา 321 ในท้ายคำขอให้ลงโทษจำเลยแถลงคัดค้านศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ขอเพิ่มเติมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163, 164 เพราะโจทก์บรรยายการกระทำที่อ้างว่าเป็นความผิดตาม มาตรา 158(5) แล้วจำเลยไม่ได้หลงต่อสู้ จึงสั่งอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้องได้ ครั้นแล้วโจทก์จำเลยต่างไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดกฎหมายอาญา มาตรา 321จำคุก 1 ปี และฐานฆ่าโคไม่รับอนุญาต ปรับ 200 บาท ลดตามมาตรา 59 คงจำคุก 6 เดือนปรับ 100 บาท
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาในปัญหาเรื่องเพิ่มเติมฟ้องว่าไม่ชอบจะลงโทษตามมาตรา 321 ไม่ได้
ศาลฎีกาเห็นว่าศาลล่างอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้องชอบแล้วดังเหตุผลที่ศาลชั้นต้นยกขึ้นวินิจฉัย เมื่อศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องแล้วถ้าหากจำเลยเห็นว่าที่รับสารภาพไป เป็นความเสียเปรียบหรือเพราะผิดหลงก็ยังมีโอกาสถอนคำรับสารภาพได้ แสดงว่าคำให้การรับสารภาพนั้นบริสุทธิ์ใจไม่ได้หลงผิดหรือหลงต่อสู้พิพากษายืน