คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1729/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงสิทธิการเช่าอาคารพิพาทและได้ให้จำเลยเช่าจำเลยให้การว่าเดิมสิทธิดังกล่าวเป็นของจำเลยซึ่งได้โอนให้แก่โจทก์เพื่อประกันการชำระหนี้คำให้การเช่นนี้เท่ากับยอมรับว่าโจทก์เป็นผู้ทรงสิทธิการเช่าอาคารพิพาทและจำเลยอยู่ในอาคารนั้นโดยอาศัยสิทธิการเช่าของโจทก์ ที่จำเลยกล่าวอ้างว่าสิทธิการเช่าอาคารพิพาทยังเป็นของจำเลยการโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์เป็นการแสดงเจตนาลวงเพราะไม่ได้โอนกันจริงนั้นจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้จึงไม่เป็นประเด็นและไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นต้องห้ามมิให้จำเลยยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงสิทธิการเช่าอาคารพิพาทโดยไม่ได้ทำหนังสือสัญญาเช่าหรือจดทะเบียนการเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยผิดสัญญาเช่าโดยค้างค่าเช่าอยู่22 เดือน โจทก์ได้ให้ทนายโจทก์มีหนังสือแจ้งให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างและออกไปจากอาคารพิพาท จำเลยได้รับหนังสือแล้วไม่ปฏิบัติตาม ขอให้จำเลยและบริวารขนย้ายออกไปจากอาคารพิพาท ให้ชำระค่าเช่าที่ค้างและค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยให้การว่าเดิมสิทธิการเช่าอาคารพิาพทเป็นของจำเลย จำเลยได้โอนสิทธิการเช่าให้แก่โจทก์เพื่อประกันการชำระหนี้ อาคารพิพาทหากให้เช่าจะได้ค่าเช่าไม่ถึงจำนวนที่ฟ้อง
ในวันนัดชี้สองสถานทนายโจทก์แถลงรับว่า ค่าเสียหายเป็นจำนวน เท่าที่จำเลยให้การ
ศาลชั้นต้นงดชี้สองสถานและงดสืบพยาน แล้วพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกไปจากอาคารพิพาทและให้ใช้ค่เาสียหายแก่โจทก์ คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงสิทธิการเช่าอาคารพิพาทได้ให้จำเลยเช่าอาคารนี้เพื่อประกอบการค้าและอยู่อาศัย จำเลยให้การว่าเดิมสิทธิการเช่าอาคารพิพาทเป็นของจำเลย จำเลยได้โอนสิทธิดังกล่าวให้แก่โจทก์เพื่อประกันการชำระหนี้เท่ากับยอมรับว่าโจทก์เป็นผู้ทรงสิทธิการเช่าอาคารพิพาทและจำเลยอยู่ในอาคารนั้นโดยอาศัยสิทธิการเช่าของโจทก์ ที่จำเลยอุทธรณ์อ้างว่าสิทธิการเช่าอาคารพิพาทยังเป็นของจำเลย การโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์เป็นการแสดงเจตนาลวงเพราะไม่ได้โอนกันจริงจึงเป็นข้อที่จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ จำเลยเพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ จึงไม่เป็นประเด็นและไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น เป็นอุทธรณ์ต้องห้าม
พิพากษายืน

Share