แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เช็คที่บริษัท อ.มอบให้บริษัทย. โดยระบุชื่อจำเลยเป็นผู้รับเงินโดยบริษัท อ. ลูกหนี้และโจทก์ซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายยอมรับว่ามีความผูกพันที่จะต้องชำระหนี้ตามเช็ค จำเลยจึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบ แม้เช็คพิพาทจะไม่ได้ลงวันที่จำเลยทำการโดยสุจริตย่อมมีอำนาจจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริงลงได้ การที่จำเลยฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาโดยอ้างว่าโจทก์ออกเช็คให้จำเลยเป็นการชำระหนี้ค่านายหน้าและแม้จำเลยจะลงวันที่ในเช็คก็ไม่เป็นการฟ้องเท็จ เพราะการนำสืบของโจทก์ก็ยังยอมรับว่าโจทก์และบริษัท อ. มีความผูกพันที่จะต้องจ่ายเงินตามเช็คให้บริษัท ย. เมื่อจำเลยเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบและได้ฟ้องโจทก์เป็นคดีแพ่งศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษายืนให้โจทก์ชำระเงินแก่จำเลยตามเช็คจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานฟ้องเท็จ และเมื่อจำเลยเบิกความไปตามคำฟ้องจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฟ้องเท็จและเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175, 177
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 จำคุก 2 ปี กระทงหนึ่ง และผิดตามมาตรา 177 วรรคสองให้จำคุก 3 ปี อีกกระทงหนึ่ง รวมสองกระทงให้จำคุก 5 ปี ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78หนึ่งในสามคงจำคุกจำเลยมีกำหนด 3 ปี 4 เดือน
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงและวินิจฉัยว่าเช็คพิพาทที่จำเลยนำไปฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ 16041/2523 เป็นเช็คที่บริษัทอู่เรือบางลำภูล่าง จำกัด โดยนายณรงค์ สวัสดิ์สาลี กรรมการผู้จัดการและโจทก์ซึ่งเป็นกรรมการมอบให้บริษัทยนตรภัณฑ์ จำกัด โดยระบุชื่อจำเลยเป็นผู้รับเงิน โดยบริษัทอู่เรือบางลำภูล่าง จำกัด ลูกหนี้และโจทก์ซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายยอมรับว่ามีความผูกพันที่จะต้องชำระหนี้ตามเช็คนั้นเพียงแต่อ้างว่าจำนวนหนี้ไม่ถึงตามเช็ค จำเลยจึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบ แม้เช็คพิพาทจะไม่ได้ลงวันที่จำเลยทำการโดยสุจริตย่อมมีอำนาจจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริงลงได้ และตามใบกำกับเช็คเอกสารหมาย ล.1 ที่บริษัทอู่เรือบางลำภูล่าง จำกัด โดยนายณรงค์ สวัสดิ์สาลี กรรมการผู้จัดการมอบให้จำเลยนั้น ก็มีข้อความเพียงว่าเช็คพิพาทออกให้จำเลยเพื่อเป็นการตอบแทนที่บริษัทอู่เรือบางลำภูล่าง จำกัด ได้งานออกแบบและต่อเรือขุดแบบหัวสว่านพร้อมอุปกรณ์และเรือพี่เลี้ยงรวม 2 ชุด คู่สัญญาในการที่ทำให้โจทก์ออกเช็คแก่จำเลยคือบริษัทยนตรภัณฑ์ จำกัด กับบริษัทอู่เรือบางลำภูล่าง จำกัด โดยนายณรงค์ สวัสดิ์สาลี กรรมการผู้จัดการไม่ใช่จำเลย ดังนั้น แม้คดีอาญาหมายเลขดำที่ 16041/2523 ที่จำเลยฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาโดยอ้างว่าโจทก์ออกเช็คให้จำเลยเป็นการชำระหนี้ค่านายหน้าและเป็นเช็คลงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2523 แม้จำเลยจะลงวันที่ในเช็คก็ไม่เป็นการฟ้องเท็จ เพราะการนำสืบของโจทก์ก็ยังยอมรับว่าโจทก์และบริษัทอู่เรือบางลำภูล่าง จำกัดมีความผูกพันที่จะต้องจ่ายเงินตามเช็คให้บริษัทยนตรภัณฑ์ จำกัด เมื่อจำเลยเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบและได้ฟ้องโจทก์เป็นคดีแพ่ง ศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษายืนให้โจทก์ชำระเงินแก่จำเลยตามเช็คจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานฟ้องเท็จ และเมื่อจำเลยเบิกความไปตามคำฟ้องจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จเช่นเดียวกันฎีกาจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับเป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น