คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1727/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เรือยนต์จำเลยแท่นทวนน้ำแอบฝั่งขวาของคลองโดยถูกต้องตามกฎหมายเรือยนต์อีกลำหนึ่งแล่นตามน้ำสวนมาในเส้นทางเดินเรือของจำเลย บันทุกคนโดยสารเกินอันตรามากแล้ว เกิดชนกันในเวลาค่ำมือในเส้นทางของเรือจำเลยโดยเรือจำเลยไม่สามารถหลบหลีกได้ หัวเรือจำเลยชนถูกผู้โดยสารในเรือที่แล่นมาผิดทางถึงตาย ดังนี้ ถึงแม้เรือจำเลยไม่ได้จุดโคมไฟ จำเลย ก็ไม่ผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยถือท้ายเรือยนต์ทวนน้ำไปตามลำคลองด้วยความประมาท โดยไม่เดินเรือแอบฝั่ง ไม่จุดโคมไฟสีขาวไว้ในที่เด่นบนดาดฟ้าเรือ ไม่จุดไฟสีเขียวและสีแดง และไม่ระวังดูเรือยนต์ที่เดินสวนมาข้างหน้าในลักษณะที่น่ากลัวจะโคนกันโดยจำเลยไม่หลีกเรือไปทางขวามือ เป็นเหตุให้เรือจำเลยชนกับเรือยนต์เฉลิมโบกที่จุดโคมไฟสวนมาตามลำน้ำ หัวเรือจำเลยชนถูกผู้โดยสารที่นั่งตอนหัวเรือ เฉลิมโลกตาย ๒๑ คน ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง ให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑ ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก ๖ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เรือชนกัน ห่างฝั่งคลองตะวันออก ๒ วาเศษ ซึ่งเป็นทางเดินเรือของจำเลย ไม่ได้ชนกันตรงกลางคลอง ขณะชนไม่มีไฟในเรือทั้ง ๒ ลำ และเรือเฉลิมโลกบรรทุกคนโดยสารประมาณ ๔๐ คน ซึ่งเกินอันตราที่บันทุกได้เพียง ๘ คน ผู้ตายนั่งหัวเรือ เหตุที่ชนเพราะเรือเฉลิมโลกแล่นสวนมาในทางของจำเลยในระยะกระชั้นชิดไม่สามารถจะเบนเรือหลบได้ทัน จำเลยจึงได้ผิดฐานประมาท คงผิดแต่ฐานไม่จุดโคมไฟตามพระราชบัญญัติการเดินเรือ ซึ่งไม่ใช่ผลโดยตรงที่ก่อให้เกิดชนกันและทำให้คนตาย จึงพิพากษาแก้ให้ปรับจำเลย ๒๐๐ บาท ตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. ๒๔๕๖ มาตรา ๑๐๔, ๑๑๐ ส่วนข้อหาที่ทำให้คนตายโดย ประมาทให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืน

Share