คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ค่าพาหนะเหมาจ่ายเดือนละ 1,500 บาท โดยลูกจ้างต้องออกทำงานนอกสถานที่ ถือเป็นค่าจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน แต่ค่าเช่าบ้านไม่ใช่จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงาน ตามสภาพไม่ถือเป็นค่าจ้าง

ย่อยาว

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยและค่าจ้าง 1 เดือน103,908 บาท โจทก์และจำเลยที่ 1 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อที่โจทก์และจำเลยที่ 1 ต่างอุทธรณ์เป็นปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ค่าพาหนะ และค่าเช่าบ้านเป็นค่าจ้างตามความหมายในกฎหมายคุ้มครองแรงงานหรือไม่ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานลงวันที่ 16 เมษายน 2515ซึ่งมีผลบังคับเป็นกฎหมายได้กำหนดไว้ในข้อ 2 ว่า “ค่าจ้าง” หมายความว่าเงินหรือเงินและสิ่งของที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเป็นการตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน หรือจ่ายให้โดยคำนวณตามผลงานที่ลูกจ้างทำได้ และหมายความรวมถึงเงินหรือเงินและสิ่งของที่จ่ายให้ในวันหยุดซึ่งลูกจ้างไม่ได้ทำงานและในวันลาด้วย ทั้งนี้ไม่ว่าจะกำหนด คำนวณหรือจ่ายเป็นการตอบแทนในวิธีอย่างใดและไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไร ดังนี้ เห็นได้ว่าเงินหรือสิ่งของใดที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเพื่อตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงานรวมทั้งวันหยุด วันลา หรือจ่ายให้ตามผลงาน ไม่ว่าค่าตอบแทนนั้นจะเรียกชื่อหรือกำหนดคำนวณอย่างไรก็ถือเป็นค่าจ้างทั้งสิ้นสำหรับเงินจำนวน 1,500 บาท ที่จำเลยที่ 1 จ่ายให้โจทก์เป็นรายเดือนตามเอกสารหมาย จ.4 และเรียกว่าเป็นค่าพาหนะนั้น ได้ความตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ว่า ตำแหน่งการงานของโจทก์ โจทก์มีหน้าที่ต้องออกไปติดต่องานนอกสถานที่ แม้จำเลยที่ 1 จะอ้างว่าเป็นเงินเหมาจ่ายรายเดือนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการเดินทางออกไปทำงานของโจทก์ แต่ก็ไม่ปรากฏว่าเงินจำนวนนี้จำเลยที่ 1 ได้ชดใช้ให้เป็นค่าใช้จ่ายที่โจทก์ได้เสียไปโดยแท้จริง โจทก์จะเสียน้อยหรือมากกว่า จำเลยที่ 1 ก็คงจ่ายให้ในอัตราเดือนละ 1,500 บาทเช่นนี้ศาลฎีกาเห็นว่าเงินจำนวนดังกล่าวถึงหากจะเรียกว่าค่าพาหนะ ก็คือเงินตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงานในตำแหน่งหน้าที่ของโจทก์ เป็นค่าจ้างตามความหมายของประกาศกระทรวงมหาดไทยข้างต้นนั้นเอง อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น

ส่วนเงินจำนวนเดือนละ 1,845 บาทที่จำเลยที่ 1 จ่ายให้เป็นรายเดือนและเรียกว่า ค่าเช่าบ้านนั้น ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 จ่ายให้โจทก์เพื่อตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงานแต่อย่างใด ตามสภาพของเงินค่าเช่าบ้านจึงถือไม่ได้ว่าเป็นค่าจ้าง อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน”

พิพากษาแก้ ให้พิจารณาประเด็นข้อ 2 ใหม่

Share