คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เนื้อที่17ไร่2งานกับที่ดินไม่มีหลักฐานทางทะเบียนรวมเนื้อที่ทั้งหมด80ไร่เป็นฉบับเดียวกันจาก จ. ภรรยาจำเลยในราคา530,000บาทโดยชำระราคาบางส่วนเป็นเงิน45,000บาทการที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของ จ.รับชำระหนี้ค่าซื้อที่ดินอีกเพียง68,750บาทแล้วโอนแต่เฉพาะที่พิพาทตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ซึ่งเป็นที่ดินเพียงบางส่วนตามสัญญาเท่ากับบังคับให้เจ้าหนี้รับชำระหนี้แต่เพียงบางส่วนเมื่อจำเลยมิได้ยินยอมจึงหาอาจจะบังคับได้ไม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา320

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย เป็น สามี และ ผู้จัดการมรดก ของ นาง จันทร์เป็ง เมื่อ ต้น ปี 2531 นาง จันทร์เป็ง ได้ ตกลง ขาย ที่ดิน ตาม หนังสือ รับรอง การ ทำประโยชน์ เลขที่ 63 เนื้อที่ 17 ไร่ 2 งาน ราคา 113,750 บาทให้ โจทก์ กำหนด โอนสิทธิ การ ครอบครอง เมื่อ เจ้าพนักงาน ที่ดิน รังวัดและ ออก หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก) ให้ ใหม่ แล้ว โจทก์ชำระ ราคา บางส่วน ให้ จำเลย 45,000 บาท ต่อมา วันที่ 11 พฤษภาคม2531 นาง จันทร์เป็ง ถึงแก่กรรม ภายหลัง โจทก์ ทราบ ว่า กรมที่ดิน ได้ กำหนด ให้ ผู้ถือ สิทธิ การ ครอบครอง ไป ออก โฉนด แทน จึง ไม่สามารถ ออกน.ส. 3 ก ใหม่ สำหรับ ที่ดิน แปลง ดังกล่าว ได้ ขอให้ จำเลย รับ ชำระ ราคาที่ดิน ส่วน ที่ ค้าง 68,750 บาท และ จดทะเบียน โอน ที่ดิน ตาม หนังสือรับรอง การ ทำประโยชน์ เลขที่ 63 ให้ โจทก์ ภายใน 15 วัน นับแต่ วัน มีคำพิพากษา หาก จำเลย ไม่ปฏิบัติ ตาม ให้ ถือเอา คำพิพากษา แทน การแสดง เจตนาของ จำเลย
จำเลย ให้การ ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ จำเลย ไป จดทะเบียน โอน ที่พิพาทตาม หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3) เลขที่ 63 หน้า 135เล่ม 7 ก หมู่ ที่ 12(22) ตำบล นางแล (บ้านดู่) อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัด เชียงราย พร้อม กับ รับ เงิน 68,750 บาท จาก โจทก์ หาก จำเลย ไม่ปฏิบัติ ตาม ให้ ถือเอา คำพิพากษา แทน การแสดง เจตนา ของ จำเลย
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “ที่ จำเลย ฎีกา ข้อกฎหมาย ต่อมา ว่า โจทก์ไม่มี อำนาจฟ้อง ขอให้ บังคับ จำเลย ใน ฐานะ ผู้จัดการมรดก ของ นาง จันทร์เป็ง โอน ขาย ที่พิพาท บางส่วน ได้ นั้น คดี นี้ ต้องห้าม มิให้ ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง ใน การ วินิจฉัย ปัญหาข้อกฎหมาย ดังกล่าวศาลฎีกา จำต้อง ถือ ข้อเท็จจริง ที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 ได้ วินิจฉัยจาก พยานหลักฐาน ใน สำนวน ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 238, 247 ซึ่ง ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 ฟัง ข้อเท็จจริง ว่า โจทก์ ได้ทำ สัญญาจะซื้อขาย ที่ดิน ตาม หนังสือรับรองการทำประโยชน์ เลขที่ 63ตำบล นางแล (บ้านดู่) อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัด เชียงราย เนื้อที่ 17 ไร่ 2 งาน กับ ที่ดิน ไม่มี หลักฐาน ทาง ทะเบียน รวม เนื้อที่ทั้งหมด 80 ไร่ จาก นาง จันทร์เป็ง นันตาน้อย ภรรยา จำเลย ซึ่ง มี สิทธิ ครอบครอง ราคา 530,000 บาท โดย ชำระ ราคา บางส่วน เป็น เงิน45,000 บาท ต่อมา เมื่อ นาง จันทร์เป็ง ถึงแก่กรรม โจทก์ ฟ้อง จำเลย ใน ฐานะ ผู้จัดการมรดก ของ นาง จันทร์เป็ง ให้ โอน ขาย ที่พิพาท ตาม หนังสือรับรองการทำประโยชน์ เนื้อที่ 17 ไร่ 2 งาน พิเคราะห์ แล้วเห็นว่า เมื่อ โจทก์ ตกลง ทำ สัญญาจะซื้อขาย ที่พิพาท รวมกับ ที่ดินที่ ไม่มี หลักฐาน ทาง ทะเบียน จาก นาง จันทร์เป็ง เป็น เนื้อที่ รวม 80 ไร่ ใน สัญญา ฉบับ เดียว กัน และ กำหนดราคา รวมเป็น เงิน 530,000 บาทโดย โจทก์ ได้ ชำระ ราคา บางส่วน เป็น เงิน 45,000 บาท ด้วย อำนาจ แห่งมูลหนี้ ดังกล่าว โจทก์ ก็ ชอบ ที่ จะ ฟ้อง ขอให้ บังคับ นาง จันทร์เป็ง ซึ่ง เป็น คู่สัญญา ให้ ปฏิบัติ ตาม สัญญาจะซื้อขาย ที่พิพาท แก่ โจทก์การ ที่ โจทก์ ฟ้อง ขอให้ บังคับ จำเลย ใน ฐานะ ผู้จัดการมรดก ของ นาง จันทร์เป็ง รับชำระหนี้ ค่าซื้อ ที่ดิน อีก เพียง 68,750 บาท แล้ว โอน แต่ เฉพาะ ที่พิพาท ตาม หนังสือรับรองการทำประโยชน์ เนื้อที่17 ไร่ 2 งาน ซึ่ง เป็น ที่ดิน เพียง บางส่วน ตาม สัญญาจะซื้อขาย ที่ โจทก์ตกลง ซื้อ จาก นาง จันทร์เป็ง นั้น ย่อม มีผล เท่ากับ เป็น การ บังคับ ให้ เจ้าหนี้ รับชำระหนี้ แต่เพียง บางส่วน โดย จำเลย ใน ฐานะ ผู้จัดการมรดกของ นาง จันทร์เป็ง มิได้ ยินยอม หา อาจจะ บังคับ ได้ไม่ ตาม ประมวล กฎหมาย แพ่ง และ พาณิชย์ มาตรา 320 โจทก์ จึง ย่อม ไม่มี อำนาจฟ้อง เลือก บังคับชำระหนี้ แต่เพียง บางส่วน ได้ ที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษา มา นั้นไม่ต้อง ด้วย ความเห็น ของ ศาลฎีกา ฎีกา จำเลย ข้อ นี้ ฟังขึ้น เมื่อวินิจฉัย เช่นนี้ แล้ว ปัญหา อื่น ตาม ฎีกา จำเลย ไม่จำต้อง วินิจฉัย ”
พิพากษากลับ ให้ บังคับ ไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น

Share