คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1693/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ให้เงินแก่โจทก์ซึ่งเป็นมารดาจำเลยที่ 2 ที่จะแต่งงาน เป็นค่าเรือนหอ โจทก์ยินยอมให้เอาเรือนพิพาทเป็นเรือนหอ เมื่อแต่งงานแล้วจำเลยทั้ง 2 ก็อยู่ในเรือนพิพาท ๆ เป็นสินเดิมของจำเลยที่ 1 เมื่อจำเลยต้องการจะย้ายที่อยู่ ได้จัดการย้ายเรือนพิพาทไป เช่นนี้ โจทก์จะมาเรียกให้จำเลยคืนเรือนไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเรือนเป็นของโจทก์ นางเทืองจำเลยเป็นบุตรโจทก์สมรสกับนายสิงห์โตจำเลยอาศัยอยู่ในเรือนนี้ ต่อมาจำเลยกับพวกรื้อเอาเรือนไป จึงฟ้องให้จำเลยคืนเรือน
จำเลยต่อสู้ว่า เมื่อจะสมรสนายสิงห์โตเสียค่าสินสอดทองหมั้น และค่าเรือนหอหนึ่งพันบาทให้แก่โจทก์ เมื่อแต่งงานแล้วจำเลยอยู่ในเรือนหอนั้น ต่อมาจำเลยต้องการย้ายจึงรื้อเอาไป
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาจำเลยคืนเรือนให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ให้จำเลยกลับชนะคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินจิฉัยว่า เรือนพิพาทเปลี่ยนมือจากโจทก์เป็นสินเดิมของจำเลยที่ ๑ ไม่ใช่โดยการซื้อขาย แต่โดยโจทก์เรียกค่าเรือนหกไว้ จึงพิพากษายืน.

Share