คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1679/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ระหว่างจัดการมรดก ทายาทที่ครอบครองทรัพย์มรดกที่ยังมิได้แบ่งกัน ย่อมถือได้ว่าครอบครองแทนทายาทอื่น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1368,1745,1748 ทายาทอื่นหรือผู้จัดการมรดกซึ่งเป็นตัวแทนของทายาททั้งปวงย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกทรัพย์มรดกเพื่อจัดการแบ่งปันต่อไปได้ แม้ว่าจะล่วงพ้นกำหนดอายุความตาม มาตรา 1754 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกของพระพิจารณ์กลจักรจำเลยเป็นทายาทคนหนึ่งของเจ้ามรดกและอาศัยอยู่ในโรงเรือนและที่ดินของเจ้ามรดก ขอให้จำเลยส่งมอบที่ดินและโรงเรือนแก่โจทก์เพื่อจะรวบรวมจัดแบ่งให้แก่ทายาท

จำเลยให้การว่า คดีขาดอายุความ ฟ้องเคลือบคลุม ทรัพย์ดังกล่าวในฟ้องเป็นของจำเลย เจ้ามรดกยกให้จำเลยแล้ว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งมอบที่ดินเฉพาะส่วนที่จำเลยครอบครองตามฟ้องให้แก่โจทก์ คำขอนอกจากนี้ให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าระหว่างจัดการมรดกนั้น ทายาทที่ครอบครองทรัพย์มรดกที่ยังมิได้แบ่งกันย่อมถือได้ว่าครอบครองแทนทายาทอื่น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1368, 1745, 1748 ทายาทอื่นหรือผู้จัดการมรดกซึ่งเป็นตัวแทนของทายาททั้งปวง ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกทรัพย์มรดก เพื่อจัดการแบ่งปันต่อไปได้ แม้ว่าจะล่วงพ้นกำหนดอายุความตามมาตรา 1754 คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ

พิพากษายืน

Share