คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2419/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุฟ้องโจทก์ไม่ได้ลงชื่อผู้เรียงฟ้องไว้ เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (7) ศาลยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในเนื้อหาการกระทำผิดของจำเลยว่าได้กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ถือไม่ได้ว่ามีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) โจทก์ฟ้องคดีใหม่ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทชนเด็กชายอุศเรนทร์ได้รับอันตรายสาหัส และเป็นเหตุให้รถจักรยานสองล้อของเด็กชายอุศเรนทร์ได้รับความเสียหาย เกิดเหตุแล้วจำเลยหลบหนีไม่หยุดช่วยเหลือและไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๐ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๔๗๗ มาตรา ๒๙,๓๐,๖๖,๖๘ พระราชบัญญัติจราจร ทางบก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๘ มาตรา ๗,๑๓,๑๕ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๙ ข้อ ๖,๑๑,๑๓
จำเลยให้การปฏิเสธ และยื่นคำร้องขอให้ศาลชี้ขาดกฎหมายเบื้องต้นว่าโจทก์เคยฟ้องจำเลยตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๑๗๘๗/๒๕๑๙ ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น โจทก์ นายสุข เพชรอยู่ จำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว ฟ้องคดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๙ (๔)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า คดีโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๐ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๔๗๗ มาตรา ๒๙,๖๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๙ ข้อ ๑๑ ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๐ ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก ๘ เดือน กระทงหนึ่ง ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา ๓๐,๖๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๕๙ ข้อ ๖, ๑๓ จำคุก ๑ เดือน อีกกระทงหนึ่ง รวมโทษจำคุก ๙ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฎีกาพิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ว่า ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๑๗๘๗/๒๕๑๙ ของศาลจังหวัดขอนแก่น ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น โจทก์ นางบำเพ็ญ ชัยเลิศ โจทก์ร่วม นายสุข เพชรอยู่ จำเลยศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องโจทก์ไม่ได้ลงชื่อผู้เรียงฟ้องไว้ เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ (๗) พิพากษายกฟ้องคดีถึงที่สุด โจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ จึงเห็นว่าในคดีอาญาหมายถึงเลขแดงที่ ๑๗๘๗/๒๕๑๙ ของศาลจังหวัดขอนแก่น ศาลยกฟ้องเพราะเหตุฟ้องโจทก์ไม่ได้ลงชื่อผู้เรียกฟ้อง ยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดในเนื้อหาการกระทำของจำเลยว่าได้กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ถือไม่ได้ว่ามีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๙(๔) ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
พิพากษายืน.

Share