แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ป.วิ.พ. มาตรา 309 ทวิ วรรคสี่ บัญญัติว่า คำสั่งศาลตามวรรคสองให้เป็นที่สุด คำว่า “คำสั่งศาลตามวรรคสอง” ดังกล่าวมิได้หมายความว่าเป็นคำสั่งอนุญาตให้เพิกถอนการขายทอดตลาดเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงหากมีกรณียื่นคำร้องตามมาตรา 309 ทวิ วรรคสอง แล้ว คำสั่งใด ๆ ของศาลที่เกี่ยวกับคำร้องดังกล่าวก็อยู่ในความหมายของคำว่า “คำสั่งศาลตามวรรคสอง” ทั้งสิ้น เมื่อคำร้องของจำเลยอ้างว่าการขายทอดตลาดไม่ชอบเนื่องจากราคาต่ำไป และการขายทอดตลาดเกิดจากความไม่สุจริตของเจ้าพนักงานบังคับคดีเช่นนี้ จึงเป็นคำร้องตามมาตรา 309 ทวิ วรรคสอง ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งแล้ว ย่อมเป็นที่สุดตามมาตรา 309 ทวิ วรรคสี่
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้แบ่งทรัพย์มรดกที่ดินจำนวน 12 แปลง ตามคำฟ้องออกเป็น 84 ส่วน ให้โจทก์ทั้งสอง จำเลย กับผู้ร้องสอดที่ 3 ได้รับส่วนแบ่งคนละ 17 ส่วน ผู้ร้องสอดที่ 1 และที่ 2 ได้รับส่วนแบ่งคนละ 8 ส่วน การแบ่งทรัพย์ดังกล่าวให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 ต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์มรดกที่ดินทั้ง 12 แปลง เพื่อนำออกขายทอดตลาดวันที่ 5 สิงหาคม 2546 ผู้คัดค้านได้ขายทอดตลาดที่ดินแปลงที่ 4 และที่ 5 คือ ที่ดินโฉนดเลขที่ 10380 และ 5399 ตำบลไร่ขิง (ท่าพูด) อำเภอสามพราน (ตลาดใหม่) จังหวัดนครปฐม ให้แก่นายเมธีผู้ซื้อทรัพย์ในราคา 15,800,000 บาท
จำเลยยื่นคำร้องว่า การขายทอดตลาดที่ดินแปลงที่ 4 และที่ 5 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นราคาที่ต่ำเกินสมควร โดยคู่ความในคดีทั้งจำเลยขายทอดตลาดโดยไม่โปร่งใสหรือไม่สุจริต ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินทั้งสองแปลง
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินแปลงที่ 4 และที่ 5 โดยชอบด้วยกฎหมายและราคาขายเป็นราคาที่เหมาะสม ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างจำเลยกับฝ่ายผู้คัดค้านเห็นสมควรให้เป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ให้แก่จำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์นอกจากนี้ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยเนื่องจากเห็นว่าคำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 ทวิ วรรคสี่ นั้น ชอบหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 ทวิ วรรคสี่ บัญญัติว่า คำสั่งศาลตามวรรคสองให้เป็นที่สุด คำว่า “คำสั่งศาลตามวรรคสอง” ของบทบัญญัติดังกล่าวมิได้หมายความว่าเป็นคำสั่งอนุญาตให้เพิกถอนการขายทอดตลาดตามคำร้องของผู้ร้องเพียงอย่างเดียวดังข้อฎีกาของจำเลยไม่ แต่หมายถึงหากมีกรณียื่นคำร้องตามมาตรา 309 ทวิ วรคคสอง แล้ว คำสั่งใด ๆ ของศาลที่เกี่ยวกับคำร้องดังกล่าวก็อยู่ในความหมายของคำว่า “คำสั่งศาลตามวรรคสอง” ในบทบัญญัติวรรคสี่ทั้งสิ้น เมื่อคำร้องของจำเลยอ้างว่าการขายทอดตลาดไม่ชอบเนื่องจากราคาต่ำไป และการขายทอดตลาดเกิดจากความไม่สุจริตของเจ้าพนักงานบังคับคดีเช่นนี้ จึงเป็นคำร้องตามมาตรา 309 ทวิ วรรคสอง ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งแล้ว คำสั่งของศาลชั้นต้นย่อมเป็นที่สุดตามมาตรา 309 ทวิ วรรคสี่ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 วินิจฉัยมานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ