แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยทั้งแปดขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้ทำคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต โจทก์ไม่ได้ออกสแตนบายเลตเตอร์ออฟเครดิต โจทก์ไม่ได้ชำระเงินให้แก่ธนาคารสแกนดิเนเวีย เอ็นไคด้าหนังสือรับสภาพหนี้ตามฟ้องไม่ใช่หนังสือรับสภาพหนี้ กับฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ล้วนเป็นเรื่องที่จำเลยทั้งแปดยกข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในเรื่องที่จำเลยทั้งแปดย่อมทราบดีอยู่แล้วตั้งแต่เมื่อได้รับสำเนาคำฟ้องของโจทก์ ซึ่งจำเลยทั้งแปดอาจยื่นคำให้การต่อสู้ในเรื่องดังกล่าวได้ตั้งแต่ยื่นคำให้การครั้งแรก และการขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การดังกล่าวนั้นแม้เป็นเหตุที่อาจมีผลต่อจำเลยทั้งแปด แต่ไม่ได้มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่ศาลจะรับคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การที่มิได้ยื่นก่อนวันชี้สองสถานได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ทำคำขอให้โจทก์ออกสแตนบายเลตเตอร์ออฟเครดิตชนิดเพิกถอนไม่ได้เพื่อเป็นประกันการที่จำเลยที่ 1 กู้ยืมเงินจากธนาคารสแกนดิเนเวีย เอ็นไคด้า ประเทศสิงคโปร์ และโจทก์ได้ออกสแตนบายเลตเตอร์ออฟเครดิตไปยังธนาคารสแกนดิเนเวีย เอ็นไคด้า ตามขอ ต่อมาจำเลยที่ 1 ผิดนัด ไม่ชำระหนี้ให้แก่ธนาคารสแกนดิเนเวีย เอ็นไคด้า ธนาคารสแกนดิเนเวีย เอ็นไคด้า จึงแจ้งให้โจทก์ชำระเงินตามสแตนบายเลตเตอร์ออฟเครดิต โจทก์ได้ชำระเงินให้แก่ธนาคารสแกนดิเนเวีย เอ็นไคด้า ไป 66,338,346.38 บาท ซึ่งจำเลยที่ 1 ต้องชำระเงินจำนวนนี้คืนโจทก์พร้อมดอกเบี้ย หนี้ที่จำเลยที่ 1 มีต่อโจทก์ดังกล่าวมีการประกันหนี้โดยจำเลยที่ 2 ถึงที่ 8 ต่างก็จำนองที่ดินหลายแปลงไว้ต่อโจทก์ เมื่อถึงกำหนดเวลาที่จำเลยที่ 1 ต้องชำระหนี้ต่อโจทก์ จำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระหนี้ และได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้และปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับโจทก์ แต่ก็ชำระหนี้ให้โจทก์เพียงบางส่วนแล้วไม่ชำระหนี้เรื่อยมา ขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 6 และที่ 8 ร่วมกันชำระเงินจำนวน 126,262,824.59 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 14 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 66,249,427.25 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ เพื่อไถ่ถอนจำนองและให้จำเลยที่ 7 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 28,035,543.28 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 11 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 18,949,600 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์เพื่อไถ่ถอนจำนอง
จำเลยที่ 1 ให้การว่า ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ยอดหนี้ตามฟ้องไม่ถูกต้อง เพราะจำเลยที่ 1 ได้ชำระต้นเงินและดอกเบี้ยไปมากกว่าที่โจทก์คิดคำนวณ โจทก์คิดดอกเบี้ยซ้ำซ้อน จำเลยที่ 1 ไม่เคยได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาและบอกกล่าวบังคับจำนอง ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะผู้กระทำการแทนไม่มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ หนังสือรับสภาพหนี้และปรับปรุงโครงสร้างหนี้เป็นการแปลงหนี้ใหม่ หนี้เดิมย่อมระงับไปแล้ว จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 จึงไม่ต้องรับผิด จำเลยที่ 1 ได้ชำระหนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว โจทก์ไม่ได้บอกกล่าวบังคับจำนองโดยชอบโจทก์คิดคำนวณหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ยไม่ถูกต้อง ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 7 ให้การว่า หนังสือรับสภาพหนี้และสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้เป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม จำเลยที่ 1 และที่ 7 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ และเมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้ว จำเลยที่ 7 ย่อมไม่ต้องรับผิด โจทก์คิดคำนวณดอกเบี้ยไม่ถูกต้อง โจทก์บอกเลิกสัญญาและบอกกล่าวบังคับจำนองโดยไม่ชอบ ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 8 ให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะผู้กระทำการแทนไม่มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ จำเลยที่ 8 จำนองที่ดินเพื่อเป็นประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ในมูลหนี้อื่นไม่ใช่มูลหนี้ตามฟ้อง การจำนองไม่ได้เป็นการจำนองเพื่อเป็นประกันหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้และสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม จำเลยที่ 1 ยังไม่ได้ผิดนัด โจทก์ผ่อนเวลาการชำระหนี้ให้จำเลยที่ 1 ดังนั้น จำเลยที่ 8 จึงหลุดพ้นความรับผิด โจทก์คิดคำนวณต้นเงินและดอกเบี้ยไม่ถูกต้อง โจทก์ยังไม่ได้ชำระเงินให้แก่ธนาคารสแกนดิเนเวีย เอ็นไคด้า โจทก์บอกเลิกสัญญาโดยไม่ชอบ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางชี้สองสถานและนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 15 และวันที่ 21 พฤศจิกายน 2549 นัดสืบพยานจำเลยทั้งแปดในวันที่ 7 วันที่ 12 วันที่ 13 และวันที่ 26 ธันวาคม 2549
หลังจากจำเลยทั้งแปดได้รับบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงและความเห็นของพยานโจทก์จำนวน 3 ปาก แล้ว ก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ 2 วัน ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 จำเลยทั้งแปดยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การจากเดิมที่ไม่ได้ให้การปฏิเสธว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้ทำคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต โจทก์ไม่ได้ออกสแตนบายเลตเตอร์ออฟเครดิต โจทก์ไม่ได้ชำระเงินให้แก่ธนาคารสแกนดิเนเวีย เอ็นไคด้าและหนังสือรับสภาพหนี้ตามฟ้องไม่ใช่หนังสือรับสภาพหนี้ ขอให้การใหม่เป็นว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้ทำคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต โจทก์ไม่ได้ออกสแตนบายเลตเตอร์ออฟเครดิตโจทก์ไม่ได้ชำระเงินให้แก่ธนาคารสแกนดิเนเวีย เอ็นไคด้า หนังสือรับสภาพหนี้ตามฟ้องไม่ใช่หนังสือรับสภาพหนี้ และสัญญาจำนองไม่มีผลใช้บังคับ กับขอแก้ไขเพิ่มเติมว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะไม่ได้บรรยายฟ้องว่าคำขอให้โจทก์ออกสแตนบายเลตเตอร์ออฟเครดิตมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง โดยจำเลยทั้งแปดอ้างเหตุที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การว่าเป็นการขอแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่องที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งว่า การขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยทั้งแปดเป็นผลสืบเนื่องจากจำเลยทั้งแปดได้รับสำเนาบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงพยานโจทก์จำนวนสามปากล่วงหน้าก่อนวันสืบพยานโจทก์ซึ่งมีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการที่โจทก์ได้ทำคำขอออกสแตนบายเลตเตอร์ออฟเครดิตและสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิตสูญหายไป เป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับภาระการพิสูจน์ของโจทก์ที่จะต้องพิสูจน์ให้ได้ตามคำฟ้องว่าจำเลยทั้งแปดได้ทำสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิตกับโจทก์จริงหรือไม่ มีการทำหนังสือรับสภาพหนี้กันจริงหรือไม่ สัญญาจำนองมีผลบังคับเพียงใดข้อที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมนี้จึงไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อคดีได้มีการชี้สองสถานไว้แล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้จำเลยทั้งแปดแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การ ยกคำร้อง
จำเลยทั้งแปดอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งแปดว่า คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยทั้งแปดซึ่งมิได้ยื่นก่อนวันชี้สองสถานนั้น เป็นการขอแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่องที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน อันเป็นเหตุให้จำเลยทั้งแปดสามารถยื่นคำร้องในวันดังกล่าวได้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180 หรือไม่ เห็นว่า ที่จำเลยทั้งแปดขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้ทำคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต โจทก์ไม่ได้ออกสแตนบายเลตเตอร์ออฟเครดิต โจทก์ไม่ได้ชำระเงินให้แก่ธนาคารสแกนดิเนเวีย เอ็นไคด้า หนังสือรับสภาพหนี้ตามฟ้องไม่ใช่หนังสือรับสภาพหนี้ กับฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะไม่ได้บรรยายฟ้องว่าคำขอให้โจทก์ออกสแตนบายเลตเตอร์ออฟเครดิตมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง นั้น ล้วนเป็นเรื่องที่จำเลยทั้งแปดยกข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในเรื่องที่จำเลยทั้งแปดย่อมทราบดีอยู่แล้วตั้งแต่เมื่อได้รับสำเนาคำฟ้องของโจทก์ซึ่งจำเลยทั้งแปดอาจยื่นคำให้การต่อสู้ในเรื่องดังกล่าวได้ตั้งแต่ยื่นคำให้การครั้งแรก และการขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การดังกล่าวนั้นแม้เป็นเหตุที่อาจมีผลต่อจำเลยทั้งแปดก็ตาม แต่ไม่ได้มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่อย่างใด จึงไม่ใช่การขอแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่องที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่ศาลจะรับคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมตามบทกฎหมายดังกล่าวไว้ข้างต้นได้แต่อย่างใด ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยทั้งแปดมานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ