คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถว และให้คืนหรือใช้ราคาสินค้าที่อยู่ในตึกแถวนั้น จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยเป็นผู้ออกเงินค่าเช่าช่วงตึกแถวนั้น และฟ้องแย้งให้โจทก์ไปจดทะเบียนเพิกถอนการจดทะเบียนการเช่าช่วง สภาพแห่งข้อหาของโจทก์เป็นเรื่องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถว หากจำเลยนำสืบได้ว่า จำเลยเป็นผู้ออกค่าเช่าช่วงตึกแถวพิพาททั้งหมด สิทธิในการเช่าช่วงตึกแถวพิพาทย่อมตกเป็นของจำเลย โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยจากตึกแถวพิพาท แต่การที่จำเลยฟ้องแย้งให้โจทก์ไปจดทะเบียนเพิกถอนการจดทะเบียนการเช่าช่วงตึกแถวพิพาทกับบริษัท ก.นั้น เป็นคำฟ้องแย้งที่มีคำขอบังคับต่อบุคคลภายนอก จึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม จำเลยต้องฟ้องเป็นอีกคดีหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายตามคำสั่งศาล ก่อนตายเจ้ามรดกประกอบกิจการค้าอยู่ที่ตึกแถวซึ่งเช่าช่วงจากบริษัทกาญจนพัฒนการ จำกัด แต่ยังมิได้จดทะเบียนสิทธิการเช่ากับพนักงานเจ้าหน้าที่ โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกจึงได้ทำสัญญาจดทะเบียนการเช่าช่วงกับบริษัทกาญจนพัฒนาการ จำกัด แล้วจำเลยได้เข้ามาอยู่ในตึกแถวดังกล่าว ขอให้พิพากษาขับไล่จำเลยกับบริวารออกจากตึกแถว
จำเลยให้การว่า เจ้ามรดกเป็นลุงของจำเลย จำเลยเป็นผู้ออกเงินในการเช่าช่วงตึกแถวพิพาททั้งสิ้นโดยให้เจ้ามรดกเป็นตัวแทนของจำเลย สิทธิในการเช่าช่วงตึกแถวจากบริษัทกาญจนพัฒนการ จำกัดจึงเป็นของจำเลย ขอให้ยกฟ้องโจทก์ และฟ้องแย้งให้บังคับโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกไปจดทะเบียนเพิกถอนการจดทะเบียนการเช่าช่วงตึกแถวพิพาท
ศาลชั้นต้นสั่งรับคำให้การจำเลยแต่ไม่รับฟ้องแย้ง
จำเลยอุทธรณ์ขอให้รับฟ้องแย้ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกจากตึกแถวพิพาท และเรียกให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาสินค้า อันเป็นมรดกของเจ้ามรดกซึ่งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาล สภาพแห่งข้อหาของโจทก์เป็นเรื่องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถวพิพาท หากจำเลยนำสืบได้ว่า จำเลยเป็นผู้ออกเงินค่าเช่าช่วงตึกแถวพิพาททั้งหมดโดยมอบให้เจ้ามรดกเป็นตัวแทนในการจองและเช่าช่วงตึกแถวพิพาทกับบริษัทกาญจนพัฒนการ จำกัด แล้ว สิทธิในการเช่าช่วงตึกแถวพิพาทย่อมตกเป็นของจำเลย โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถวพิพาท แต่การที่จำเลยฟ้องแย้งให้โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกไปจดทะเบียนเพิกถอนการจดทะเบียนการเช่าช่วงตึกแถวพิพาทกับบริษัทนั้น เป็นคำฟ้องแย้งที่มีคำขอบังคับต่อบุคคลภายนอก จึงเป็นเรื่องไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม จำเลยจะต้องฟ้องเป็นคดีหนึ่งต่างหากตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๗ วรรคสาม
พิพากษายืน

Share