แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในกรณีที่การจำคุกแทนค่าปรับตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.18 ในหมายจำคุกยังไม่ถึงเวลาคุมขัง เพราะโทษจำคุกยังมีอยู่จนกระทั่งถึงวันใช้ประมวลกฎหมายอาญาเช่นนี้ ต้องนำประมวลกฎหมายอาญา ม.30 มาใช้บังคับตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2499 ม. 6 คือต้องออกหมายกักขังแทนค่าปรับใหม่เป็นอัตราวันละ 5 บาท.
ย่อยาว
เรื่อง ลักทรัพย์,รับของโจร,ฆ่ากระบือไม่รับอนุญาต
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๔๙๙ ว่าจำเลยทั้งสามผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.๒๘๘,๒๙๓,๒๙๖,๓๒๑,๖๓,๗๑ เพิ่มโทษจำเลยที่ ๑ ตาม ม.๗๒ พ.ร.บ.อากรการฆ่าสัตว์ พ.ศ. ๒๔๘๘ ม.๕,๑๑ และ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๔๘๖ ม.๔,๕ และลดรับตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.๕๙ แล้ว จำเลยที่ ๑ จำคุก ๑ ปี ๔ เดือน ปรับ ๑๐๐ บาท จำเลยที่ ๒-๓ จำคุกคนละ ๑ ปีปรับคนละ ๗๕ บาท ไม่เสียค่าปรับจัดการตาม ก.ม. ลักษณะอาญา ม.๑๘ กับให้คืนของกลางและใช้ราคาทรัพย์
วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ ศาลออกหมายแดงแจ้งโทษคดีถึงที่สุด
ต่อมาวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๐๐ จ่าศาลรายงานว่าจำเลยไม่เสียค่าปรับและว่าบัดนี้ประมวลกฎหมายอาญาใช้บังคับแล้ว ศาลชั้นต้นจึงให้ออกหมายแดงแจ้งใหม่ ใช้วิธีการกักขังแทนค่าปรับ คือ ๕ บาทต่อ ๑ วัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.๓๐ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๐๐ เป็นต้นไป
โจทก์อุทธรณ์ว่า คำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว จะแก้หรือมีคำสั่งในคดีนั้นอีกไม่ได้ เว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้นตาม ม.๓+ (๑) ประมวลกฎหมายอาญา จึงขอให้หักเงินค่าปรับคิดอัตราวันละ ๑ บาทตามหมายเดิม
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คำสั่งศาลชั้นต้นในเรื่องนี้มิใช่เป็นการแก้คำพิพากษา เพราะการปรับคงเท่าเดิม เป็นแต่การบังคับคดีตามคำพิพากษาที่ใช้กฎหมายลักษณะอาญา ม.๑๘ นั้น ได้ถูกยกเลิกโดย พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๔๙๙ ม.๖ การจำคุกแทนค่าปรับในหมายจำคุกยังไม่ถึงเวลาคุมขังจนกระทั่งถึงวันใช้ประมวลกฎหมายอาญา เพราะโทษจำคุกยังมีอยู่ จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับตาม พ.ร.บ. นี้ เมื่อกฎหมายบัญญัติไว้เช่นนี้ โจทก์จะให้บังคับตามกฎหมายลักษณะอาญาต่อไปไม่ได้ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีนี้ปรับเข้า ม.๖ พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๔๙๙ ดังความเห็นศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน.