คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

วันที่จะถือว่าโจทก์ทราบถึงการที่จำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ คือวันที่ผู้ว่าการโจทก์ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจทำการแทนโจทก์แต่เพียงผู้เดียวได้รับรายงานเรื่องละเมิด ผู้ว่าการโจทก์ได้รับรายงานเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2524 โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2525 จึงไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันขุดเหมืองแร่ เป็นเหตุให้ดินและมูลทรายถมทับท่อประปาของโจทก์ได้รับความเสียหายใช้การไม่ได้ โจทก์ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมท่อประปาเป็นเงิน ๖๖,๐๐๐ บาท และโจทก์ขอคิดดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันทำละเมิดถึงวันฟ้องเป็นเวลา ๕ ปี เป็นเงิน๒๔,๗๕๐ บาท ขอให้ศาลพิพากาาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายรวม ๙๐,๗๕๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน ๖๖,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามให้การว่ามิได้ทำให้ท่อประปาของโจทก์ชำรุดเสียหายฟ้องของโจทก์ขาดอายุความแล้ว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน ๕๐,๐๕๔ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งนับแต่วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ จนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ ๔,๐๐๐ บาท
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าทนายความแทนโจทก์ ๑,๐๐๐ บาท
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสามเป็นผู้ทำให้ท่อประปาของโจทก์เสียหายเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ และวินิจฉัยว่า ส่วนปัญหาว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่นั้น เห็นว่าโจทก์เป็นนิติบุคคล ระหว่างเกิดเหตุมีนายวิทยา เพียรวิจิตรเป็นผู้ว่าการ นายวิทยาจึงเป็นผู้มีอำนาจทำการแทนโจทก์แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งโจทก์นำสืบว่านายวิทยาเพิ่งได้รับรายงานเรื่องที่จำเลยที่ ๑ ทำให้ท่อประปาชำรุดเสียหายและจำนวนค่าเสียหายตามบันทึกเอกสารหมาย ปจ.๒ เมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน๒๕๒๔ และนายวิทยาได้มีหนังสือให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าเสียหายในวันเดียวกัน จำเลยทั้งสามมิได้นำสืบว่า โจทก์รู้ถึงการทำละเมิดของจำเลยที่ ๑ เมื่อใด ที่จำเลยทั้งสามฎีกาว่าการประปาตะกั่วป่าได้รายงานให้การประปาเขต ๑๔นครศรีธรรมราชทราบเหตุละเมิดตั้งแต่วันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๒๓ ถือว่าโจทก์ทราบเหตุละเมิดตั้งแต่วันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๒๓ แล้วนั้นเห็นว่า การประปาเขต ๑๔ ไม่ใช่ผู้มีอำนาจทำการแทนโจทก์ จะถือว่าโจทก์ทราบเหตุละเมิดแล้วไม่ได้ ต้องถือว่าโจทก์ทราบถึงการที่จำเลยที่ ๑ กระทำละเมิดต่อโจทก์ในวันที่นายวิทยาผู้ว่าการได้รับแจ้งรายงานคือวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๒๔ โจทก์ฟ้องคดีนี้ในวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๒๕ จึงไม่ขาดอายุความศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้จำเลยทั้งสามใช้ค่าทนายความชั้นฎีกาแทนโจทก์ ๑,๐๐๐ บาท.

Share