คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าของสวนยางร่วมกันคนหนึ่ง ยกส่วนของตนตีใช้หนี้แก่อีกคนหนึ่ง โดยมิได้จดทะเบียน ภายหลังผู้ที่รับตีใช้หนี้โอนขายสวนยาง ผู้ซื้อรับซื้อไว้โดยสุจริต ดังนี้เจ้าของเดิมมาฟ้องเรียกสวนยางคืนไม่ได้

ย่อยาว

ความว่า โจทก์กับจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของสวนยางรายพิพาทร่วมกัน ภายหลังโจทก์ยกสวนยางส่วนของตนชำระหนี้ให้แก่จำเลยที่ 1 ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้ทำกรมธรรม์ขายสวนให้แก่จำเลยที่ 2 ๆ ได้รับซื้อและได้ชำระราคาเสร็จแล้ว โจทก์จึงนำมาฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือสัญญาซื้อขาย และห้ามมิให้จำเลยทั้ง 2 และบริวารเกี่ยวข้องในที่พิพาท กับให้ที่พิพาทเป็นของโจทก์แต่ผู้เดียว จำเลยทั้ง 2 ให้การต่อสู้ในข้อเท็จจริง และตัดฟ้องว่าคดีขาดอายุความแล้ว ศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริง และเห็นว่าคดีขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า แม้โจทก์จะมิได้ทำสัญญาโอนขายสวนรายพิพาทให้จำเลยที่ 1 โดยชอบด้วยกฎหมายก็ดี สวนรายพิพาทก็ตกไปยังจำเลยที่ 2 ผู้รับซื้อไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเอาสวนรายพิพาทคืนและขอทำลายการซื้อขาย

พิพากษายืน

Share