คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1605/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เสียหายนั่งยอง ๆ ซื้อของ เอาถุงเงินวางไว้ในตัก พอซื้อเสร็จก็ลุกขึ้นไป ไปได้ประมาณ 4 วา นึกถึงถุงเงินได้ เข้าใจว่าตกลงที่นั่งซื้อของจึงกลับมาถามและหาตามบริเวณนั้น แต่ไม่พบ ขณะผู้เสียหายทำถุงเงินตกนั้น ไม่ปรากฏว่าจำเลยอยู่ตรงไหน เห็นผู้เสียหายทำถุงเงินตกหรือไม่ ขณะนั้นประชาชนมาจ่ายตลาดมาก จำเลยเห็นถุงนั้นตกอยู่ไม่ทราบว่าเป็นของใครจึงเก็บเอาไปเป็นของตนโดยเข้าใจว่าเป็นของที่เจ้าของทำตกหาย จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 วรรค 2

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นางหน่อแก้ว ได้ทำถุงผ้าพร้อมด้วยธนบัตรรวม ๑๔๐ บาท ซึ่งอยู่ในถุงผ้านั้นตกหายในตลาด จำเลยเก็บถุงผ้าและธนบัตรดังกล่าวได้ และจำเลยได้เบียดบังยักยอกเอาถุงผ้าและธนบัตรของนางหน่อแก้วไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๒
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๒ วรรค ๒ ให้จำคุก ๒ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ผู้เสียหายทำถุงเงินตกแล้วเดินไปได้เพียง ๔ วา นึกได้จึงกลับมาหาแต่ไม่พบ เพราะจำเลยเก็บเอาไปเสียแล้ว การที่จำเลยหยิบเอาไปในเวลากระชั้นชิดกับเวลาที่ผู้เสียหายลืมเช่นนี้ จำเลยน่าจะรู้ว่าเป็นของผู้เสียหาย จำเลยเอาไปเสีย จึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ แต่โจทก์ฟ้องจำเลยฐานยักยอก จึงลงโทษจำเลยดังโจทก์ฟ้องไม่ได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้เสียหายซื้อมะเขือเทศในตลาดโดยนั่งยอง ๆ ซื้อเอาถุงเงินวางไว้ในตัก ซื้อเสร็จลุกขึ้นไป ลืมนึกถึงถุงเงิน ลุกขึ้นได้ก็ไปห่างร้านมะเขือเทศประมาณ ๔ วา นึกถึงถุงเงินขึ้นได้ คงจะเข้าใจว่าตกลงที่ตรงนั่งซื้อมะเขือเทศ จึงกลับมาถามคนขาย และหาตามบริเวณนั้น แต่ไม่พบ ข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าขณะผู้เสียหายทำถุงเงินตกนั้นจำเลยอยู่ตรงไหนเห็นผู้เสียหายทำถุงเงินตกหรือไม่ ขณะนั้นมีคนมาจ่ายตลาดกันมาก จำเลยเห็นถุงนั้นตกอยู่ไม่ทราบว่าเป็นของใคร จึงเก็บเอาถุงนั้นไปเป็นของตนเสียโดยเข้าใจว่าเป็นของที่เจ้าของทำตกหาย จึงมีความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๒ วรรค ๒
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share