แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฝ่ายชายให้เถ้าแก่ไปหมั้นหญิงและกำหนดวันแต่งงานกันแล้วได้ตกลงกันให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้จัดซื้อเครื่องใช้สอยในครอบครัวเตรียมไว้สำหรับให้ชายหญิงจะได้ใช้สอยเมื่ออยู่กินด้วยกัน ถึงกำหนดชายหญิงนั้นก็ได้สมรสกัน ดังนี้ ถือว่าทรัพย์สินเหล่านั้นเป็นทรัพย์สินที่คู่สมรสได้มาเมื่อมีการสมรส แม้จะได้จัดหาซื้อไว้ก่อนวันสมรสก็ไม่ถือว่าเป็นสินเดิมของหญิง
ย่อยาว
คดี 2 สำนวนนี้ศาลพิจารณารวมกัน สำนวนแรกโจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นบุตรของจำเลยที่ 2 โจทก์จดทะเบียนสมรสกับจำเลยที่ 1 แล้วหย่ากันตามคำพิพากษาของศาล ก่อนสมรสโจทก์มีสินเดิมและสินส่วนตัวคือ 1 ตู้ขนาดใหญ่ 2. เก้าอี้นวม 1 ชุด 3. ขันเงินใหญ่ 1 ใบ 4. ที่นอน 1 ชุด 5. ตะเกียงลาน 1 ดวง 6. ปั้นเงิน 1 ชุด 7. พวงกุญแจนาค 1 อัน 8. ขันเงินล้างหน้า 1 ใบ 9. เตารีดไฟฟ้า 1 อัน 10. กระเป๋าหนัง1 ใบ 11. ตู้เครื่องแป้ง 1 ชุด 12. เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มของโจทก์ 13. แหวนทองคำประดับเพชร 1 วง รวมราคา 29,700 บาท โจทก์ขนทรัพย์สินดังกล่าวบางส่วนไปไว้ที่บ้านเรือนจำเลยก่อนวันสมรส และสวมแหวนติดตัวไปอยู่กับจำเลยที่ 1 ทรัพย์สินเหล่านี้ยังอยู่ที่จำเลยทั้งสอง
สำนวนหลังโจทก์ฟ้องว่า เมื่อโจทก์สมรสแล้วได้ฝากเงิน40,000 บาท ไว้กับจำเลย จำเลยไม่คืนให้ จึงขอให้บังคับให้จำเลยคืนทรัพย์สินและเงิน 40,000 บาท
จำเลยให้การว่า ทรัพย์สินตามฟ้องอันดับ 1 ถึง 11 เป็นสินสมรสโจทก์ชอบที่จะได้คืนเพียงครึ่งหนึ่ง เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มอันดับ 12 ยอมให้โจทก์เอาคืนไปแหวนเพชรอันดับ 13 ไม่มีอยู่ที่จำเลย และจำเลยในสำนวนที่ 2 ไม่เคยรับฝากเงิน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้คืนเครื่องนุ่งห่มแก่โจทก์ ทรัพย์สินอันดับ 1 ถึง 11 เป็นสินสมรสให้แบ่งให้โจทก์และนายเกียเสียง จำเลยที่ 1คนละส่วนเท่ากัน ถ้าแบ่งไม่ได้ให้เอาขายทอดตลาดแบ่งเงินตามส่วน คำขอนอกนั้นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
เฉพาะทรัพย์อันดับ 1 ถึง 11 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ได้ความว่าเมื่อนายเกียเสียงให้เถ้าแก่ไปหมั้นโจทก์ และกำหนดวันแต่งงานกันแล้วก็ตกลงให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้จัดหาซื้อเครื่องใช้สอยในครอบครัว โจทก์นายกวงหยูบิดาโจทก์ จึงได้ซื้อเครื่องเรือนและของใช้ตามฟ้องอันดับ 1 ถึง 11 และส่งเครื่องเรือนของใช้ที่ได้ซื้อบางสิ่งไปไว้ที่บ้านนายเกียเสียงก่อนวันแต่งงาน เห็นว่าทรัพย์สิน 11 อันดับนี้เป็นทรัพย์สินที่ฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยเพิ่งจะตกลงกันให้ฝ่ายโจทก์เป็นผู้จัดซื้อเมื่อโจทก์กับนายเกียเสียงกำหนดวันแต่งงานกันแล้ว และเป็นทรัพย์สินที่เตรียมไว้ให้โจทก์และนายเกียเสียงจะได้ใช้สอยเมื่อแต่งงานและอยู่กินกันฉันสามีภริยา ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่คู่สมรสได้มาเมื่อมีการสมรส แม้จะได้ซื้อไว้ก่อนวันสมรส ก็มิใช่ทรัพย์สินซึ่งโจทก์มีอยู่แล้วก่อนวันสมรสถือไม่ได้ว่าเป็นสินเดิมของโจทก์
ในที่สุดพิพากษายืน