แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย ข้อ 11,28 ห้ามทะเลาะวิวาทหรือประทุษร้ายต่อพนักงานด้วยกันในระหว่างปฏิบัติงานหรือนอกเวลาปฏิบัติงานในบริเวณโรงแรมของจำเลยถ้าลูกจ้างฝ่าฝืนมีโทษถึงปลดออกจากงานโดยไม่จ่ายค่าชดเชยการที่โจทก์ทะเลาะตบตีกับพนักงานอื่นซึ่งเป็นหญิงด้วยกัน ไม่ปรากฏว่าบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด ไม่เป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเป็นกรณีร้ายแรงตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47(3)จำเลยผู้เป็นนายจ้างต้องตักเตือนเป็นหนังสือก่อนต่อเมื่อโจทก์ผู้เป็นลูกจ้างกระทำผิดซ้ำอีก จึงจะเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยคดีนี้จำเลยรับแล้วว่ามิได้ตักเตือน โจทก์เป็นหนังสือเมื่อเลิกจ้างจึงต้องจ่ายค่าชดเชย เมื่อจำเลยมีหนังสือแจ้งปลดโจทก์ออกจากงานนั้นอ้างเหตุเลิกจ้างเพียงว่าโจทก์ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับกรณีทะเลาะวิวาทประทุษร้ายพนักงานอื่น เท่านั้น เห็นได้ว่าจำเลยไม่ติดใจหยิบยกสาเหตุที่โจทก์เล่นการพนันสลากกินรวบมาเป็นสาเหตุการผิดวินัยหรือเป็นเหตุแห่งการลงโทษอีกต่อไปเมื่อโจทก์ฟ้องคดีแล้ว จำเลยจะยกเหตุที่โจทก์เล่นการพนันสลากกินรวบมาเป็นข้ออ้างที่จะไม่จ่ายค่าชดเชยหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำทำหน้าที่พนักงานทำความสะอาด ต่อมาจำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะเหตุกระทำผิดระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน เรื่องวินัยพนักงาน กรณีทะเลาะวิวาทประทุษร้ายพนักงานด้วยกันในระหว่างปฏิบัติงาน โดยมิได้ตักเตือนโจทก์เป็นหนังสือก่อน การทะเลาะวิวาทมิใช่กรณีร้ายแรง ทั้งโจทก์มิได้สมัครใจทะเลาะวิวาท หากแต่ป้องกันตนเพราะถูกข่มเหงอย่างไม่เป็นธรรม ขอบังคับให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าค่าจ้างค้างชำระ ค่าจ้างหรือค่าเสียหายสำหรับเวลาพักที่ขาดไป พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะเหตุทำผิดระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานโดยมิได้มีการตักเตือนเป็นหนังสือก่อนจริง โจทก์เล่นการพนันเป็นเจ้ามือสลากกินรวบ รับแทงสลากกินรวบจากนางจารุวรรณพนักงานของจำเลยแล้วโจทก์ไม่จ่ายสินพนัน เมื่อนางจารุวรรณทวงเงินจึงเกิดตบตีทะเลาะวิวาทกันในโรงแรมของจำเลยต่อหน้าแขกผู้มาพัก เป็นการผิดระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย ข้อ 11.28 ห้ามทะเลาะวิวาทหรือประทุษร้ายต่อพนักงานด้วยกันในระหว่างปฏิบัติงานหรือเวลาปฏิบัติงานในบริเวณโรงแรม ข้อ 11.30ห้ามเล่นการพนันในบริเวณโรงแรม กำหนดโทษทางวินัยสำหรับความผิดทั้งสองกรณีดังกล่าวคือปลดออกจากงานโดยไม่จ่ายค่าชดเชย โจทก์ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงและฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับการทำงาน จำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโดยไม่ต้องเตือนเป็นหนังสือก่อนและไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ไม่มีค่าจ้างชำระและโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายที่อ้างว่าขาดเวลาพัก ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดพิจารณาโจทก์จำเลยแถลงรับข้อเท็จจริงกัน และโจทก์ไม่ติดใจเรียกร้องค่าจ้างค้างชำระและค่าจ้างหรือค่าเสียหายสำหรับเวลาพกที่ขาดไป
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า เพียงทะเลาะวิวาทกันเฉย ๆ เท่านี้จะถือเป็นกรณีร้ายแรงหาได้ไม่ จำเลยต้องตักเตือนเป็นหนังสือ เมื่อจำเลยไม่เคยตักเตือนเป็นหนังสือ การเลิกจ้างจึงต้องจ่ายค่าชดเชย แต่โจทก์ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยอันถือเป็นคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายจำเลยจึงมีสิทธเลิกจ้างได้โดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้าและไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล้วงหน้า พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า การที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างประจำมีกรณีใดบ้างที่จะไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47 ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามประกาศดังกล่าว ข้อ 47(3) กำหนดว่า นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยเมื่อเลิกจ้างเพราะเหตุลูกจ้างฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานหรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของนายจ้าง และนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว เว้นแต่กรณีที่ร้ายแรงนายจ้างไม่จำต้องตักเตือน เห็นว่า โจทก์ซึ่งเป็นหญิงทะเลาะตบตีกับพนักงานอื่นซึ่งเป็นหญิงไม่ปรากฏในสำนวนว่าบาดเจ็บมากน้อยเพียงใดไม่เป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับอย่างร้ายแรง เมื่อโจทก์มิได้ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเป็นกรณีร้ายแรงตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงานข้อ 47(3) จำเลยต้องตักเตือนเป็นหนังสือก่อน ต่อเมื่อโจทก์กระทำผิดซ้ำอีกจึงจะเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยคดีนี้จำเลยรับแล้วว่ามิได้ตักเตือนโจทก์เป็นหนังสือ เมื่อเลิกจ้างจึงต้องจ่ายค่าชดเชย
จำเลยอุทธรณ์ว่า โจทก์เล่นการพนันสลากกินรวบในบริเวณโรงแรมและฉ้อโกงเงินอันเป็นสินพนันเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของจำเลย ข้อ 11.30 จำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยนั้น พิจารณาแล้วจำเลยได้ให้การไว้ว่า โจทก์เล่นการพนันสลากกินรวบในบริเวณโรงแรมจริง แต่เมื่อจำเลยมีหนังสือปลดโจทก์ออกจากงานนั้น อ้างเหตุเลิกจ้างเพียงว่าโจทก์ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับ ข้อ 11.28 กรณีทะเลาะวิวาทประทุษร้ายพนักงานอื่นเท่านั้น เห็นได้ว่าจำเลยไม่ติดใจหยิบยกสาเหตุที่โจทก์เล่นการพนันสลากกินรวบมาเป็นสาเหตุการผิดวินัยหรือเป็นเหตุแห่งการลงโทษอีกต่อไป เวลาล่วงมาจนโจทก์ฟ้องคดีแล้วจำเลยจะกลับยกเหตุที่โจทก์เล่นการพนันสลากกินรวบมาเป็นข้ออ้างที่จะไม่จ่ายค่าชดเชยหาชอบไม่
พิพากษายืน