แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
ที่พิพาทเป็นถนนส่วนบุคคลและไหล่ถนนอยู่ในโฉนดของผู้คัดค้านบิดาผู้ร้องกับผู้ร้องครอบครองเป็นเจ้าของถนนสืบเนื่องกันมาอย่างสงบและเปิดเผยติดต่อกันมากว่า10ปีแล้วที่พิพาทจึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์พาณิชย์มาตรา1382.
ย่อยาว
ผู้ร้อง ยื่น คำร้อง ขอ และ แก้ไข คำร้อง ขอ ว่า เดิม ที่ดิน โฉนดเลขที่ 75345 แขวง บางกะปิ กรุงเทพมหานคร เป็น ของ หลวงอรรถวิภัชน์พจนกร บิดา ของ ผู้ร้อง หลวงอรรถวิภัชน์พจนกร ได้ ครอบครอง ส่วนเหนือ ของที่ดิน โฉนด เลขที่ 14922 ของ นาย วัลลภ เคียงศิริ เนื้อที่ 51.83ตารางเมตร หรือ 12.95 ตารางวา โดย ความ สงบ เปิดเผย ด้วย เจตนา เป็นเจ้าของ ติดต่อ กัน มา กว่า 25 ปี โดย ทำ ถนน ปัก เสาไฟฟ้า วาง ท่อประปาและ ทำ รั้ว กั้น เอา ที่ดิน ดังกล่าว เข้า เป็น แปลงเดียว กับ ที่ดินโฉนด เลขที่ 75345 มา เกิน กว่า 10 ปี โดย ไม่ มี ผู้ใด คัดค้าน ต้นพ.ศ. 2516 หลวงอรรถวิภัชน์พจนกร ยก ที่ดิน โฉนด เลขที่ 75345 ให้ผู้ร้อง ผู้ร้อง จึง เข้า ครอบครอง ที่ดิน โฉนด เลขที่ 14922 ของ นายวัลลภ เคียงศิริ เนื้อที่ 12.95 ตารางวา โดย ความสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนา เป็น เจ้าของ นับแต่ นั้น มา จน บัดนี้ เกินกว่า 10 ปี แล้วขอ ศาล สั่ง ว่า ที่ดิน โฉนด เลขที่ 14922 เฉพาะ ส่วน ที่ ผู้ร้องครอบครอง เนื้อที่ 12.95 ตารางวา เป็น กรรมสิทธิ์ ของ ผู้ร้อง โดย การครอบครอง ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
ผู้คัดค้าน ยื่น คำ คัดค้าน และ ฟ้องแย้ง ว่า ผู้ คัดค้าน รับ โอนที่ดิน โฉนด เลขที่ 14922 จาก นาย เชวง เคียงศิริ เมื่อ พ.ศ. 2509ก่อน หน้า นั้น ผู้ร้อง และ บิดา ของ ผู้ร้อง ไม่ เคย ครอบครอง ปรปักษ์ใน ที่ดิน ดังกล่าว แต่ อย่างใด ต้น พ.ศ. 2523 ผู้คัดค้าน รังวัด สอบเขตที่ดิน เลขที่ 14922 พบ ว่า ผู้ร้อง ทำ ถนน คอนกรีต รุกล้ำ เข้า มา ในที่ดิน นั้น เป็น รูป สามเหลี่ยม เนื้อที่ ประมาณ 0.6 ตารางวา และผู้ร้อง อ้าง สิทธิ ครอบครอง ปรปักษ์ ผู้ คัดค้าน ให้ ผู้ร้อง รื้อ ถนนออก ไป ผู้ร้อง จึง มา ร้อง เป็น คดีนี้ ขอ ให้ ยก คำร้อง และ ให้ผู้ร้อง รื้อถอน ถนน คอนกรีต ที่ รุกล้ำ ที่ดิน ของ ผู้คัดค้าน เนื้อที่ 0.6 ตารางวา กับ รื้อ ท่อประปา ที่ วาง ขนาน กับ ถนน ดังกล่าว ออก ไปจาก ที่ดิน ของ ผู้คัดค้าน
ผู้ร้อง ให้การ แก้ ฟ้องแย้ง ว่า หลวงอรรถวิภัชน์พจนกร บิดา ผู้ร้องครอบครอง ที่ดิน ตาม ฟ้องแย้ง จน ได้ กรรมสิทธิ์ ตาม กฎหมาย แล้วและ ผู้ร้อง ได้ ครอบครอง ต่อมา จน ปัจจุบัน ได้ กรรมสิทธิ์ ตาม กฎหมายแล้ว เช่นกัน ผู้คัดค้าน ไม่ มี อำนาจ ฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า ที่ดิน โฉนด เลขที่ 14922 เนื้อที่ ประมาณ12 ตารางวา เป็น กรรมสิทธิ์ ของ ผู้ร้อง โดย การ ครอบครอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ให้ ยก ฟ้องแย้ง
ผู้คัดค้าน อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน
ผู้คัดค้าน ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ข้อเท็จจริง ฟัง ได้ จาก ทาง นำสืบ ของ ทั้ง สองฝ่าย รวมทั้ง ที่ คู่ความ รับกัน ใน แผนที่ พิพาท ว่า ที่ พิพาท ภายในเส้น สี ม่วง เนื้อที่ ประมาณ 12 ตารางวา เป็น ถนน และ ไหล่ถนน อยู่ ในเขต ที่ดิน โฉนด เลขที่ 14922 ของ ผู้คัดค้าน ปัญหา ว่า ผู้ร้องครอบครอง ที่ พิพาท จน ได้ กรรมสิทธิ์ แล้ว หรือไม่
ผู้ร้อง มี ตนเอง พลโท กฤษณ์ ชีเจริญ และ นาง สิน หรือ สินี เต่าวิเศษยืนยัน ต้องกัน ว่า ถนน คอนกรีต นี้ เดิม เป็น ถนน ดินลูกรัง ซึ่ง สร้างไว้ ก่อน พ.ศ. 2509 สอง ปาก แรก ยืนยัน ด้วย ว่า เป็น ถนน ส่วน บุคคลของ หลวงอรรถวิภัชน์พจนกร บิดา ผู้ร้อง และ ทั้ง สาม ปาก ยืนยัน ตรงกันอีก ว่า ถนน นี้ ใช้ เข้า สนามกอล์ฟ กรุงทอง เจือสม กับ ที่ นายเชี่ยวชาญ เคียงศิริ ที่ ผู้คัดค้าน เบิกความ ไว้ ว่า เห็น ถนน นี้ มาแต่ พ.ศ. 2509 โดย ผู้ร้อง เป็น คน ทำ ถนน และ ต่อมา ปรับปรุง เป็นคอนกรีต จึง รับฟัง ได้ ว่า บิดา ผู้ร้อง กับ ผู้ร้อง ครอบครอง เป็นเจ้าของ ถนน ดังกล่าว สืบเนื่อง กัน มา อย่าง สงบ และ เปิดเผย อย่างน้อยก็ ตั้งแต่ พ.ศ. 2509 แล้ว และ ผู้ร้อง ได้ เข้า ทำ ประโยชน์ ใน ที่พิพาท จริง โดย ใช้ และ ซ่อม ถนน นั้น อยู่ เสมอ ทั้ง ยัง ได้ วางท่อประปา ไป ตาม ไหล่ถนน และ ขุดพบ ลูกรัง ใน ที่ พิพาท ตาม ที่ศาลชั้นต้น บันทึก ไว้ ใน วัน เดิน เผชิญสืบ นั้น ด้วย นาย สุนทรสุวรรณเมธา พยาน ผู้คัดค้าน เอง ก็ รับ อยู่ ว่า ตน ทราบ ว่า ถนน รุกล้ำเข้า มา ใน ที่ดิน ของ ผู้คัดค้าน จาก การ ไป ระวัง แนวเขต แทนผู้คัดค้าน ใน ปี พ.ศ. 2516 และ 2522 ได้ แจ้ง ผู้คัดค้าน ทราบ ทันทีแล้ว แต่ ผู้คัดค้าน ก็ ไม่ ได้ โต้แย้ง สิทธิ อย่างใด ตลอดมา จน ถึงพ.ศ. 2523 นับ เป็น เวลา ที่ บิดา ผู้ร้อง และ ผู้ร้อง ครอบครอง ที่พิพาท อย่าง ปรปักษ์ ติดต่อ กัน มา กว่า 10 ปี แล้ว ที่ พิพาท จึง ตกเป็น กรรมสิทธิ์ ของ ผู้ร้อง ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
พิพากษา ยืน.