คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3362/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นหัวหน้าวงดนตรี มีโจทก์เป็นลูกวงเดิมบริษัท น.ร่วมกับจำเลยว่าจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างเล่นดนตรี โดยจำเลยรับเงินมาจากบริษัท น. แล้วนำมาจ่ายให้โจทก์ ต่อมาบริษัท น. และจำเลยได้สั่งให้โจทก์ไปเล่นดนตรีที่บริษัท ซ. จำกัด โดยโอนให้โจทก์ไปรับเงินเดือนจากบริษัท ซ. จำกัด มีจำเลยเป็นผู้รับแทนแล้วนำมาจ่ายให้โจทก์ ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ดังกล่าวเท่ากับยืนยันว่า ค่าจ้างที่โจทก์ได้รับนั้นเป็นเงินของบริษัท ซ. จำกัด ไม่ใช่ของจำเลย จำเลยเพียงเป็นตัวแทนของโจทก์ไปรับค่าจ้างจากบริษัท ซ. จำกัด มาจ่ายแก่โจทก์เท่านั้น จำเลยจึงไม่ใช่นายจ้างของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมจากจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นหัวหน้าวงดนตรี โจทก์เป็นลูกวงของจำเลยเดิมบริษัทนิวอิมพีเรียลโฮเต็ล จำกัด ได้ร่วมกับจำเลยว่าจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยเล่นดนตรี โดยจำเลยรับเงินมาจากบริษัทนิวอิมพีเรียลโฮเต็ล จำกัด แล้วนำมาจ่ายให้โจทก์ต่อมาบริษัทดังกล่าวและจำเลยได้สั่งให้โจทก์และลูกวงไปเล่นดนตรีที่บริษัทซิตี้โฮเต็ล จำกัด (อิมพาราโฮเต็ล) โดยโอนให้โจทก์ไปรับเงินเดือนจากบริษัทซิตี้โฮเต็ล จำกัด มีจำเลยเป็นผู้รับแทนแล้วมาจ่ายให้แก่โจทก์อีกต่อหนึ่ง ต่อมาจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์ไม่มีความผิดและไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม และค่าทำงานในวันหยุดแต่โจทก์
จำเลยขาดนัด
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า สัญญาจ้างระหว่างโจทก์จำเลยไม่ใช่สัญญาเฉพาะตัว แต่ถือเอาความสำเร็จในผลงาน จึงเป็นเรื่องจ้างทำของไม่ใช่จ้างแรงงาน ไม่อยู่ในอำนาจศาลแรงงานกลางที่จะพิจารณาพิพากษา พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า พิเคราะห์แล้วเห็นสมควรวินิจฉัยคำฟ้องของโจทก์เสียก่อน โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นหัวหน้าวงดนตรี มีโจทก์เป็นลูกวงเดิมเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม ๒๕๒๑ บริษัทนิวอิมพีเรียลโฮเต็ล จำกัด ได้ร่วมกับจำเลยว่าจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยเล่นดนตรีในวงของจำเลย โดยจำเลยรับเงินมาจากบริษัทนิวอิมพีเรียบโฮเต็ล จำกัด แล้วนำมาจ่ายให้แก่โจทก์อีกต่อหนึ่ง ต่อมาบริษัทดังกล่าวและจำเลยได้สั่งให้โจทก์ไปเล่นดนตรีที่บริษัทซิตี้โฮเต็ล จำกัด โดยโอนให้โจทก์ไปรับเงินเดือนจากบริษัทซิตี้โฮเต็ล จำกัด มีจำเลยเป็นผู้รับแทนแล้วนำมาจ่ายให้แก่โจทก์อีกต่อหนึ่งศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำฟ้องโจทก์ได้บรรยายว่าโจทก์ได้รับค่าจ้างมาจากบริษัทซิตี้โฮเต็ล จำกัด โดยมีจำเลยเป็นผู้รับแทน ฟ้องของโจทก์เท่ากับยืนยันว่าค่าจ้างที่โจทก์ได้รับนั้นเป็นเงินของบริษัทซิตี้โฮเต็ล จำกัด ไม่ใช่เงินของจำเลย จำเลยเพียงเป็นตัวแทนของโจทก์ไปรับค่าจ้างจากบริษัทซิตี้โฮเต็ล จำกัด มาจ่ายให้แก่โจทก์เท่านั้น เมื่อจำเลยมิได้มีฐานะเป็นนายจ้างโจทก์แล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธินำคดีมาฟ้องจำเลยเพื่อเรียกค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมได้
พิพากษายืน

Share