คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ภริยาที่มิชอบด้วยกฎหมาย ถ้าหากได้ครอบครองที่ดินอันเป็นมรดกของสามีมาโดยสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลากว่า 10 ปี ก็ย่อมมีสิทธิได้ที่พิพาทในทางครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382

ย่อยาว

คดีนี้ นางเขียวยื่นคำร้องว่า โจทก์นำเจ้าพนักงานศาลไปยึดที่ดิน ๑ แปลง โดยอ้างว่าเป็นของจำเลย ทรัพย์ดังกล่าวเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องครอบครองที่พิพาทตลอดมาโดยสงบ เปิดเผย และเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลากว่า ๑๐ ปี ขอให้ถอนการยึด
โจทก์ให้การว่า ที่พิพาทเป็นของนายเชื่อม นายเชื่อมตาย ที่พิพาทตกได้แก่ จำเลยซึ่งเป็นทายาท ผู้ร้องเป็นภริยาที่มิชอบด้วยกฎหมายของนายเชื่อม จึงไม่มีกรรมสิทธิ์
โจทก์จำเลยแถลงรับกันว่า ทรัพย์พิพาทเป็นของนายเชื่อม จำเลยเป็นบุตรนายเชื่อม นางอาจ ผู้ร้องเป็นภริยานายเชื่อมแต่ไม่จดทะเบียนสมรสกันศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้ว จึงให้งดสืบพยานโจทก์จำเลย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้ร้องไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขัดทรัพย์ พิพากษาให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ผู้ร้องอ้างว่า ได้ครอบครองที่พิพาทมาโดยสงบเปิดเผย และด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมาเป็นเวลากว่า ๑๐ ปีแล้ว ที่พิพาทจึงตกได้แก่ผู้ร้อง หากเป็นจริง ผู้ร้องย่อมได้ที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๒ และมีสิทธิยื่นคำร้องขัดทรัพย์ได้ จึงเห็นควรฟังพยานหลักฐานของคู่ความในข้อครองครองที่พิพาทต่อไป พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ร้องอ้างว่าที่พิพาทเป็นของผู้ร้อง และได้ครอบครองมาโดยสงบเปิดเผยและด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมาเป็นเวลากว่า ๑๐ ปีแล้ว ถ้าทางพิจารณาฟังไว้ว่า ผู้ร้องได้ใช้สิทธิครอบครองที่พิพาทมาโดยสงบ เปิดเผย และด้วยเจตนาเป็นเจ้าของกว่า ๑๐ ปีแม้ผู้ร้องจะมิใช่เป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายของนายเชื่อมผู้ร้องก็มีสิทธิได้ที่พิพาทในทางครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๒
พิพากษายืน

Share