คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลได้ออกหมายบังคับคดี ตั้งหัวหน้ากองหมายเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีจัดการยึดอายัดทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือทำการอื่นใดโดยอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมาย เป็นเรื่องการดำเนินการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษา
คำบังคับหรือหมายบังคับที่ศาลออกไปแล้ว ถ้าศาลนั้นเองมาพิจารณาเห็นว่าไม่ถูกต้อง ศาลนั้นย่อมออกคำสั่งแก้ไขให้เปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องได้ เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำพิพากษา เป็นเรื่องที่ศาลสั่งแก้ไขคำบังคับ มิใช่เป็นเรื่องแก้ไขคำพิพากษา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกให้จำเลยคืนทะเบียนรถยนต์ จำเลยให้การต่อสู้และฟ้องแย้งว่าโจทก์ขายรถยนต์ให้จำเลย และรับเงินค่ารถไปแล้วและขอยืมรถไปจากจำเลย ขอให้ศาลบังคับให้โจทก์คืนรถให้จำเลยและใช้ค่าเสียหาย คดีถึงที่สุดในชั้นฎีกาว่า โจทก์ขายรถให้จำเลยแล้วพิพากษาให้โจทก์คืนรถให้จำเลย และใช้ค่าเสียหาย

ในชั้นบังคับคดี จำเลยรับมอบรถยนต์ไปแล้ว แต่มีปัญหาที่โจทก์จำเลยโต้เถียงกันว่า โจทก์ได้ส่งมอบและจำเลยได้รับมอบรถยนต์วันใด และโจทก์จะต้องใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยถึงวันใด

ศาลแพ่งพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า จำเลยได้รับมอบหมายรถยนต์ไปจากโจทก์ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2503 อันเป็นวันที่เจ้าพนักงานไปจัดการยึดรถยนต์มาจากโจทก์ ตามที่จำเลยร้องขอให้ยึด แล้วให้จำเลยเป็นผู้รักษาไว้ ค่ารักษารถจะเรียกจากโจทก์ไม่ได้ ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2501 ถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2503

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จำเลยฎีกาว่าศาลแพ่งไม่มีอำนาจเปลี่ยนแปลงคำบังคับที่ออกให้แก่โจทก์ โดยศาลแพ่งบังคับให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยเพิ่มขึ้น และโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์คำบังคับนั้น โจทก์ได้ยื่นคำร้องคัดค้านคำบังคับ และศาลได้สั่งให้คิดค่าเสียหายตามจำนวนเพียงเท่าในคำร้องของโจทก์ โจทก์ได้รับผลตามคำร้อง จึงไม่มีอะไรที่จะอุทธรณ์คัดค้านคำบังคับนั้นอีก การที่ศาลได้ออกหมายบังคับคดีตั้งให้หัวหน้ากองหมายเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีจัดการยึดอายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือทำการอื่นใดโดยอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมาย เป็นเรื่องดำเนินการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษา คำบังคับหรือหมายบังคับคดีที่ศาลออกไปแล้ว ถ้าศาลนั้นเองมาพิจารณาเห็นว่าไม่ถูกต้อง ศาลนั้นก็ย่อมออกคำสั่งแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องได้ เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำพิพากษาเป็นเรื่องที่ศาลสั่งแก้ไขคำบังคับ มิใช่เป็นเรื่องแก้ไขคำพิพากษา เมื่อศาลพิจารณาเห็นว่าคำบังคับที่ออกไปนั้นยังไม่ถูกต้องหรือขาดเกินไปศาลก็ชอบที่จะออกคำสั่งแก้ไขคำบังคับให้เป็นไปในทางที่เห็นว่าถูกต้องได้

ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยมีสิทธิได้รับค่าเสียหาย จนถึงวันที่กองหมายถอนการยึดและมอบรถยนต์ให้จำเลยนั้น เมื่อเจ้าพนักงานกองหมายได้ยึดรถยนต์รายพิพาทจากโจทก์และโจทก์ได้มอบรถยนต์ให้แก่เจ้าพนักงานกองหมายในวันนั้นแล้ว เป็นการที่โจทก์ปฏิบัติไปตามคำพิพากษาแล้วโจทก์จึงไม่มีรถยนต์คันพิพาทที่จะต้องมอบให้เจ้าพนักงานกองหมายหรือกับจำเลยตามคำพิพากษาอีก ส่วนจำเลยจะควรได้รับมอบรถยนต์จากกองหมายในวันใดนั้น เป็นเรื่องสิทธิและหน้าที่ระหว่างจำเลยกับเจ้าพนักงานกองหมาย โจทก์หาได้มีสิทธิหรือหน้าที่ที่จะทำให้เจ้าพนักงานกองหมายมอบรถยนต์แก่จำเลยในทันที หรือมอบให้ในวันใดได้ไม่ และจำเลยก็ชอบที่จะร้องขอให้ศาลพิจารณาสั่งให้มอบรถยนต์ให้จำเลยในวันใดได้ เมื่อศาลสั่งไม่เป็นที่พอใจ ก็ชอบที่จะใช้สิทธิในทางอุทธรณ์ฎีกาต่อไป โจทก์ไม่ได้เกี่ยวข้องอย่างใดด้วยโจทก์จึงหาต้องรับผิดไม่

พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share