แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องด้วยคดีนี้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้ยื่นฎีกาโดยขอให้การรับสารภาพต่อศาลฎีกา และขอความปรานีโทษเพื่อประสงค์จะได้พ้นโทษโดยเร็ว อีกทั้งจะได้ไม่เสียประโยชน์ในการขอพระราชทานอภัยโทษ จึงขอศาลฎีกาได้โปรดพิจารณาพิพากษาคดีเป็นการด่วนด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15,67 กระทงหนึ่ง วางโทษจำคุก1 ปี กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติเดียวกันมาตรา 57,91 อีกกระทงหนึ่ง วางโทษจำคุก 6 เดือนรวมสองกระทงเป็นจำคุก 1 ปี 6 เดือนจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยที่ 1ไว้ 9 เดือน สำหรับจำเลยที่ 2 ที่ 3 ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15,57,67,91การกระทำของจำเลยที่ 2 ที่ 3 เป็นความผิดหลายกรรมให้เรียงกระทงลงโทษลงโทษจำเลยที่ 2 ที่ 3 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 67 จำคุกคนละ 1 ปี กระทงหนึ่ง ตามมาตรา 91 จำคุกคนละ 6 เดือนอีกกระทงหนึ่ง รวมโทษจำคุก 2 กระทง เป็นจำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือนนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ111,110)
คำสั่ง
จะเร่งรัดการพิจารณาพิพากษาให้ตามควรแก่กรณี