คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1557/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยจ้างทนายความทำเรื่องราวเรียกร้องค่าปฏิกรรมสงครามจากรัฐบาลไทย มอบให้ทนายความเป็นตัวแทน โดยทำสัญญาเป็นหนังสือจะจ่ายค่าจ้างร้อยละ 10 ของจำนวนค่าทำขวัญที่จำเลยได้รับจริง สัญญานี้ไม่เป็นโมฆะ เพราะสัญญานี้มิใช่เป็นการรับจ้างโดยหน้าที่ทนายความ อาจตกลงว่าจ้างกันได้ตามความประสงค์ ไม่มีกฎหมายห้าม.

ย่อยาว

เรื่อง เรียกค่าจ้างตามสัญญา
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนายเอ.ดุ๊ก ก่อนนายเอ.ดุ๊กตาย จำเลยได้จ้างนายเอ.ดุ๊กทำเรื่องราวและหลักฐานเรียกร้องค่าปฏิกรรมสงครามจากรัฐบาล ค่าจ้างร้อยละ ๑๐ ของจำนวนค่าทำขวัญที่จำเลยได้รับจริง ต่อมาจำเลยได้รับค่าทำขวัญแล้ว จำเลยไม่จ่ายค่าจ้างดังกล่าว ขอให้บังคับให้จำเลยจ่ายค่าจ้าง
เฉพาะในข้อกฎหมาย จำเลยต่อสู้ว่าสัญญาเป็นโมฆะ เพราะนายเอ.ดุ๊กทำในฐานะทนายความ เรียกร้องเอาส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซนต์ถึงร้อยละ ๑๐ สูงเกินส่วน
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลล่างทั้งสอง ให้จำเลยใช้เงิน ๒๙๘ ปอนด์ ๑๖ ชิลลิงก์ ๖ เพนนี คิดเป็นเงินไทยในอัตราแลกเปลี่ยนในวันฟ้องเป็นเงิน ๑๗,๑๘๒ บาท ๔๔ สตางค์ และดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี แต่วันค้างชำระจนกว่าจะชำระเสร็จ
ข้อกฎหมายที่จำเลยต่อสู้ว่าสัญญารายนี้เป็นโมฆะโดยทนายความเรียกค่าจ้างเป็นเปอร์เซนต์นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า สัญญารายนี้มิใช่เป็นการจ้างทนายความให้ว่าต่างแก้ต่างคดีในโรงศาล หากแต่เป็นเรื่องจ้างให้ทำกิจการนอกโรงศาล มิใช่เป็นการรับจ้างในหน้าที่ทนายความ อาจตกลงว่าจ้างกันได้ตามความประสงค์ ไม่มีกฎหมายห้าม สัญญานี้ไม่เป็นโมฆะ.

Share