คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน ได้หลงลืมมิได้ระบุพยานให้ถูกต้องตามกฏหมาย ครั้นล่วงเลยมา 2 วัน โจทก์นึกได้รีบยื่นคำร้องขอระบุพยานโดยมีเหตุผลแสดงความสมควร เพราะความเข้าใจผิด เช่นนี้ เมื่อคำนึงว่าหากถ้าศาลอนุญาตคู่ความก็ไม่มีทางเสียรัดเสียเปรียบกัน ศาลก็อนุญาตให้ระบุพยานได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ยกนาแปลงหนึ่งให้จำเลยซึ่งเป็นบุตร ต่อมาจำเลยเนรคุณ จึงฟ้องเรียกนาคืน
จำเลยให้การต่อสู้คดี
เมื่อจำเลยยื่นคำให้การแล้วศาลนัดพิจารณาวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๔๙๙ โดยให้โจทก์เป็นฝ่ายสืบก่อน
ก่อนถึงวันนัด โจทก์ยื่นคำร้องขออนุญาตระบุพยานและยื่นบัญชีระบุพยานด้วยคำร้องในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๔๙๙ ศาลชั้นต้นบันทึกว่าจะสั่งคำร้องในวันสืบพยาน
ครั้นถึงวันสืบพยาน ศาลสั่งว่า โจทก์ไม่ยื่นระบุพยานภายในกำหนดของกฏหมาย ซึ่งต้องยื่นในวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๔๙๙ จึงสั่งไม่รับคำร้องของโจทก์ วันสั่งเป็นวันพิจารณา เมื่อศาลไม่อนุญาตโจทก์จึงนำสืบไม่ได้จึงเท่ากับโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ จำเลยแถลงไม่ติดใจสืบพยาน จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่ระบุพยานตามกำหนดเพราะความเข้าใจผิดคิดว่าได้ยื่นแล้ว เมื่อรู้ตัวว่ายังไม่ได้ยื่นก็รีบทำคำร้องขอยื่น ไม่ได้จงใจฝ่าฝืน ทั้งเวลายื่นก็ล่วงเลยเวลาตามกฏหมายไปเพียง ๒ วัน อนึ่งโจทก์เป็นฝ่ายสืบก่อน เมื่อโจทก์ ยังไม่สืบจึงไม่มีทางเสียเปรียบ จึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้รับบัญชีระบุพยาน และดำเนินการพิจารณาพิพากษา
จำเลยฏีกา
ศาลฏีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์.

Share