คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายซึ่งไม่เคยรู้จักกับจำเลยมาก่อน ได้มาซื้อสุราจากร้านจำเลยดื่ม ดื่มสุราแล้วเข้าไปแย่งตะไกรจากภรรยาจำเลยซึ่งกำลังตัดผมให้จำเลยอยู่หน้าร้ายจะตัดผมให้จำเลยเอง ทั้งผู้ตายขอเงินจากจำเลยโดยไม่ปรากฏเหตุที่จำเลยจะต้องให้เงินแก่ผู้ตายกับผู้ตายยังอ้างว่าผู้ตายซื้อสลากกินรวบจากจำเลยแล้วถูกรางวัด แต่จำเลยไม่จ่ายเงินให้ จึงเกิดโต้เถียงกัน และผ้าขาวม้าที่จำเลยนุ่งหลุด จำเลยวิ่งเข้าห้อง ขณะนั้นเองผู้ตายจับแขนและล้วงกระเป๋าเสื้อภรรยาจำเลยและขอเงินอีก จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย เช่นนี้ ไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า ผู้ตายถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ และริบของกลาง
จำเลยให้การว่า ผู้ตายขู่เข็ญเอาเงินจากจำเลย จำเลยไม่ให้ ผู้ตายทำร้ายจำเลยและภรรยาจำเลย จำเลยยิงผู้ตายเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายโดยบันดาลโทสะ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๗๒ ลงโทษจำคุก ๖ ปี จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๔ ปี ของกลางริบ
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการบันดาลโทสะ และไม่เป็นการป้องกันตัว พิพากษาแก้ เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ลงโทษจำคุก ๑๘ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า รูปคดีฟังได้ตามทางนำสืบของโจทก์จำเลยว่า ในวันเกิดเหตุ ผู้ตายซึ่งไม่เคยรู้จักกับจำเลยมาก่อน ได้มาซื้อสุราจากร้านจำเลยดื่ม ดื่มสุราแล้วเข้าไปแย่งตะไกรจากภรรยาจำเลยซึ่งกำลังตัดผมให้จำเลยอยู่หน้าร้านจะตัดผมให้จำเลยเอง ทั้งผู้ตายขอเงินจากจำเลยโดยไม่ปรากฏเหตุที่จำเลยจะต้องให้เงินแก่ผู้ตายกับผู้ตายยังอ้างว่าผู้ตายซื้อสลากกินรวบจากจำเลยแล้วถูกรางวัล แต่จำเลยไม่จ่ายเงินให้ จึงเกิดโต้เถียงกัน และผ้าขาวม้าที่จำเลยนุ่งหลุด จำเลยวิ่งเข้าห้อง แต่ขณะนั้นเองผู้ตายจับแขนและล้วงกระเป๋าเสื้อนางหริ่งภรรยาจำเลยและขอเงินนางหริ่งอีก จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น และไม่เป็น ไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายดังข้อต่อสู้ของจำเลย เห็นว่าตามพฤติการณ์ที่ผู้ตายได้กระทำต่อจำเลยและนางหริ่งดังกล่าว จำเลยและนางหริ่งถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยได้ยิงผู้ตายในขณะนั้น เป็น เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ จึงควรได้รับความปรานีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๒
พิพากษาแก้ ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๗๒ ให้จำคุกจำเลย ๒ ปี ปืนกระสุนปืน และแหนบกระสุนปืนของกลางคืนให้จำเลยไป

Share