แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกโจทก์ขอเลื่อนคดี ศาลอนุญาตให้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 11 ธันวาคม 2522 ถึงวันนัดโจทก์ขอเลื่อนอีก ศาลอนุญาตให้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 25 มกราคม 2523 แต่ทนายจำเลยจดวันนัดลงในสมุดนัดความของตนผิดโดยจดเป็นวันที่ 25กุมภาพันธ์ 2523 ซึ่งเป็นผลทำให้ทนายจำเลยเข้าใจวันนัดสืบพยานโจทก์ผิดไปจึงมิได้มาศาลในวันที่ 25มกราคม 2523 ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา กรณีมีเหตุสมควรที่จะให้พิจารณาใหม่ได้
ในคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลย ได้มีข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลว่า ศาลได้พิจารณาให้โจทก์ชนะคดีโดยเพียงแต่ฟังพยานหลักฐานของโจทก์ซึ่งนำพยานเข้าสืบเพียงปากเดียวนั้นยังไม่เพียงพอที่จะให้โจทก์ชนะคดีได้ เนื่องจากจำเลยมีพยานทั้งบุคคลและเอกสารต่างๆ ที่จะนำสืบแสดงว่าจำเลยมิได้ผิดสัญญาตามฟ้องโจทก์ ดังนี้ถือได้ว่าคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยได้กล่าวโดยชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 แล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อสินค้าจากโจทก์แล้วไม่ชำระราคาจำเลยทำให้ผ้าไหมของโจทก์เสียหาย จำเลยเช่าที่ดิน อาคาร อุปกรณ์และเครื่องจักรของโจทก์แล้วค้างชำระค่าเช่า ค่าโทรศัพท์ และทำให้ทรัพย์สินที่เช่าชำรุดเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินรวมทั้งสิ้น447,258.82 บาท แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้ซื้อสินค้าจากโจทก์ ผ้าไหมของโจทก์ไม่เสียหาย จำเลยมิได้ค้างชำระค่าเช่า ค่าโทรศัพท์ ทรัพย์สินที่เช่ามิได้เสียหายมากมายดังฟ้อง ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง
จำเลยขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 205,972.71 บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดพิจารณา
โจทก์คัดค้านว่า จำเลยจงใจขาดนัดพิจารณาและคำร้องขอให้พิจารณาใหม่มิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้พิจารณาใหม่
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ทนายจำเลยจดวันนัดสืบพยานลงในสมุดนัดความของตนผิด ซึ่งเป็นผลให้เข้าใจวันนัดสืบพยานโจทก์ผิดไปจึงไม่ได้มาศาลดังนี้ยอมถือได้ว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา กรณีมีเหตุสมควรที่จะให้พิจารณาใหม่ได้
ปรากฏตามคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลย ได้มีข้อคัดค้านไว้ว่าศาลได้พิจารณาให้โจทก์ชนะคดีโดยเพียงแต่ฟังพยานหลักฐานของโจทก์ซึ่งนำพยานเข้าสืบเพียงปากเดียวนั้นยังไม่เพียงพอที่จะให้โจทก์ชนะคดีได้ เนื่องจากจำเลยมีพยานทั้งพยานบุคคลและเอกสารต่าง ๆ ที่จะนำสืบแสดงว่าจำเลยมิได้ผิดสัญญาตามฟ้องโจทก์ เห็นว่าคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยได้กล่าวโดยชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 แล้ว
พิพากษายืน