คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 155/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยในคดีนี้เป็นคู่ความรายเดียวกัน และมูลคดีเดียวกันกับคดีก่อน แต่ในคดีก่อนศาลได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องเพราะเหตุฟ้องเคลือบคลุม โดยยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นสำคัญแห่งคดีที่ว่าจำเลยได้กู้เงินโจทก์ไปจริงดังฟ้องหรือไม่ ฉะนั้น การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องเพื่อให้ศาลชี้ขาดในประเด็นข้อนี้ จึงไม่ถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินที่กู้ไปพร้อมทั้งดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า ไม่เคยกู้ และฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำกับคดีหมายเลขแดงที่ 27/2521 ของศาลชั้นต้น

ศาลชั้นต้นสอบข้อเท็จจริงได้ความว่า คดีนี้มีมูลคดีเดียวกันกับคดีหมายเลขแดงที่ 27/2521 ซึ่งศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุว่าฟ้องเคลือบคลุมคดีถึงที่สุดแล้ว จึงสั่งงดสืบพยาน แล้ววินิจฉัยว่าเป็นฟ้องซ้ำ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ไม่เป็นฟ้องซ้ำพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาแล้วพิพากษาใหม่ในประเด็นอื่นต่อไป

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 27/2521 ของศาลชั้นต้นที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้วหรือไม่ เห็นว่า แม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏว่าโจทก์จำเลยคดีนี้เป็นคู่ความเดียวกันและมูลคดีที่เป็นอย่างเดียวกันกับคดีก่อนดังกล่าวนั้นก็ตาม แต่ในคดีก่อนศาลได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์เพราะเหตุฟ้องเคลือบคลุม ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 โดยยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นสำคัญแห่งคดีที่ว่า จำเลยได้กู้เงินโจทก์ไปจริงดังฟ้องหรือไม่และในประเด็นข้อนี้ศาลได้กำหนดเป็นประเด็นไว้ในคดีก่อนนั้นแล้วด้วย ฉะนั้น การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องใหม่เพื่อให้ศาลชี้ขาดในประเด็นข้อนี้ จึงไม่ถือว่าเป็นฟ้องซ้ำกับคดีก่อนอันต้องห้ามมิให้นำมาฟ้องได้อีกตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

พิพากษายืน

Share