แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ตามสัญญาซื้อขายโจทก์จะต้องส่งมอบเครื่องสูบน้ำให้จำเลยภายในวันที่3กุมภาพันธ์2521โจทก์ส่งเครื่องสูบน้ำให้จำเลยตอนแรกในเดือนกุมภาพันธ์2521แต่เครื่องสูบน้ำใช้การไม่ได้โจทก์ต้องรับคืนไปแก้ไขและมาส่งให้จำเลยในวันที่16ตุลาคม2521ดังนี้การส่งมอบเครื่องสูบน้ำของโจทก์คือการชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขายตามสัญญานั้นโจทก์จะต้องส่งมอบเครื่องสูบน้ำที่มีอุปกรณ์ครบถ้วนและต้องเป็นเครื่องสูบน้ำที่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้เมื่อเครื่องสูบน้ำใช้งานไม่ได้โจทก์จะบังคับให้จำเลยรับไว้ไม่ได้การที่โจทก์ส่งเครื่องสูบน้ำมาให้จำเลยในตอนแรกยังถือไม่ได้ว่าเป็นการส่งมอบอันเป็นการชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขายต้องถือว่าโจทก์ส่งมอบเมื่อวันที่16ตุลาคม2522เป็นการส่งมอบล่าช้าจำเลยเรียกเบี้ยปรับได้ เบี้ยปรับนั้นศาลมีอำนาจลดได้เองตามป.พ.พ.มาตรา383 เมื่อศาลชั้นต้นกำหนดให้ชำระดอกเบี้ยตั้งแต่วันใดแล้วจำเลยมิได้โต้แย้งศาลฎีกาก็ให้ดอกเบี้ยนับแต่วันดังกล่าวการแจ้งขอหักกลบลบหนี้นั้นไม่มีบทกฎหมายสนับสนุนว่าจะไม่ต้องชำระดอกเบี้ย ภาษีหักณ ที่จ่ายตามป.รัษฎากรมาตรา69นั้นจำเลยซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีอำนาจดำเนินการได้เองอยู่แล้วศาลไม่จำต้องพิพากษาให้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระค่าเครื่องสูบน้ำที่ซื้อไปจากโจทก์เป็นเงิน 1,326,160 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ผิดสัญญาส่งมอบเครื่องสูบน้ำล่าช้า ขอให้ชำระค่าปรับและค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย เป็นเงิน1,222,691.07 บาท พร้อมดอกเบี้ย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่าไม่ได้ผิดสัญญาและเก็บภาษีจากโจทก์ไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 1,191,449.93 บาท ให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันพิพากษาจนกว่าจะชำระเสร็จ ศาลอุธทรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยชำระเงิน 1,297,905.33 พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 28 กันยายน 2524 จนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ตามสัญญาโจทก์จะต้องส่งเครื่องสูบน้ำให้จำเลยภายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2521 เมื่อโจทก์ส่งของเกินกำหนดเวลาดังกล่าวก็ต้องถือว่าส่งมอบล่าช้าแล้วและเมื่อปรากฎว่าเครื่องสูบน้ำที่โจทก์ส่งใช้งานไม่ได้จนโจทก์ต้องรับคืนไปแก้ไข และส่งมาให้จำเลยในวันที่ 16 ตุลาคม 2522 เช่นนี้ ก็ต้องถือว่าโจทก์เพิ่งส่งมอบเครื่องสูบน้ำในวันที่ 16 ตุลาคม 2522 นั้นเอง ความล่าช้าเกิดขึ้นเพราะสินค้าของโจทก์บกพร่องใช้งานไม่ได้ โจทก์จึงต้องรับผิดในความล่าช้านั้นจะถือว่าโจทก์ส่งมอบเครื่องสูบน้ำแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2521 ไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าตามสัญญาไม่ได้ระบุว่าการส่งมอบจะต้องทำอย่างไรจึงจะถือว่าเป็นการส่งมอบที่สมบูรณ์ การที่โจทก์นำเครื่องสูบน้ำไปส่งในวันที่ 3และ 6 กุมภาพันธ์ 2521 จึงถือว่าโจทก์ได้ส่งมอบให้จำเลยแล้วตั้งแต่วันดังกล่าว ส่วนที่เครื่องสูบน้ำอุปกรณ์ขาดไปใช้การไม่ได้เป็นเรื่องสินค้าชำรุดบกพร่อง ระยะเวลาที่โจทก์รับเครื่องสูบน้ำไปแก้ไข จึงไม่ใช่ระยะเวลาที่ส่งมอบล่าช้านั้น ศาลฎีกาไม่อาจเห็นพ้องด้วยเพราะการส่งเครื่องสูบน้ำที่มีอุปกรณ์ครบถ้วนและต้องเป็นเครื่องสูบน้ำที่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ เมื่อเครื่องสูบน้ำขาดอุปกรณ์บางชิ้นและใช้งานไม่ได้ ดังนี้ จำเลยย่อมมีสิทธิจะปฏิเสธไม่รับเครื่องสูบน้ำนั้นได้ โจทก์จะบังคับให้จำเลยรับเครื่องสูบน้ำดังกล่าวไว้หาได้ไม่และจำเลยก็ไม่ยอมรับเครื่องสูบน้ำนั้นจนกระทั่งโจทก์ได้แก้ไขจจนใช้งานได้แล้ว การที่โจทก์ส่งเครื่องสูบน้ำมาให้จำเลยในตอนแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2521จึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นการส่งมอบอันเป็นการชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขาย ต้องถือว่าโจทก์เพิ่งส่งมอบเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2522ซึ่งเป็นวันที่โจทก์ส่งเครื่องสูบน้ำที่อยู่ในสภาพใช้งานได้ แม้สัญญาซื้อขายจะไม่ได้ระบุว่า การส่งมอบจะต้องทำอย่างไรจึงจะถือว่าสมบูรณ์ แต่การตีความว่าโจทก์มีสิทธิส่งเครื่องสูบน้ำที่ใช้งานไม่ได้นั้น ย่อมไม่เป็นไปตามความประสงค์ในทางสุจริต แต่อย่างไรก็ดีศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่า จำเลยมีส่วนทำให้การส่งมอบล่าช้าอยู่เหมือนกัน โจทก์ส่งเครื่องสูบน้ำให้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2521 จำเลยมิได้ทำการตรวจสอบเพิ่งจะตรวจสอบครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2521 จึงทราบว่าเครื่องสูบน้ำขาดอุปกรณ์และต่อมาจึงทราบว่าใช้งานไม่ได้ ทั้งปราฎว่า จำเสียหายอะไรเป็นพิเศษจากการส่งมอบล่าช้าศาลฎีกาจึงเห็นสมควรลดค่าปรับลงจากที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้อีก โดยให้โจทก์ชำระค่าปรับสำหรับการส่งมอบเครื่องสูบน้ำรายการที่ 2 ล่าช้า เพียง 200,000 บาท ซึ่งศาลมีอำนาจลดได้เองตามบทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา383 ที่จำเลยฎีกาโต้แย้งว่า ศาลไม่มีอำนาจลดค่าปรับเพราะไม่มีประเด็นนั้นฟังไม่ขึ้น เมื่อรวมค่าปรับส่วนนี้กับค่าปรับสำหรับเครื่องสูบน้ำรายการแรก จำนวน 25,35867 บาท เข้าด้วยกันแล้วโจทก์จะต้องชำระค่าปรับให้จำเลยรวมทั้งสิ้น 225,358.67 บาทเมื่อหักค่าปรับทั้งหมดจากราคาเครื่องสูบน้ำที่จำเลยต้องชำระให้โจทก์จำนวน 1,326,160 บาทแล้ว จำเลยต้องชำระเงินให้โจทก์1,100,801.33 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันที่จำเลยผิดนัดซึ่งศาลชั้นต้นคิดดอกเบี้ยให้ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2522 ตามที่โจทก์ขอ จำเลยมิได้โต้แย้งเรื่องวันที่คิดดอกเบี้ย ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรให้โจทก์ได้ดอกเบี้ยนับแต่วันนั้นเป็นต้นไป ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยได้มีหนังสือแจ้งหักกลบลบหนี้และขอให้โจทก์ไปรับเงินส่วนที่เหลือแต่โจทก์ไม่ไปรับ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระเงินค่าเครื่องสูบน้ำให้โจทก์ และจำเลยแจ้งให้โจทก์ชำระค่าปรับและค่าภาษีให้แก่จำเลยหรือให้หักกลบลบหนี้กันแต่โจทก์ไม่ยอม โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากเงินค่าเครื่องสูบน้ำจากจำเลยนั้นศาลฎีกาเห็นว่านอกจากจำเลยจะไม่ได้ยกปัญหาเหล่านี้ขึ้นต่อสู้ไว้ให้เป็นประเด็นในศาลล่างแล้ว ข้อต่อสู้กล่าวของจำเลยก็ไม่มีกฎหมายสนับสนุนอีกด้วย ฎีกาของจำเลยจึงฟังไม่ขึ้น
ส่วนเรื่องภาษีที่จำเลยขอให้หักจากเงินที่ต้องจ่ายแก่โจทก์นั้นฟ้องแย้งของจำเลยมิได้บรรยายว่าเป็นภาษีอะไร แม้จะถือว่าเป็นภาษีตามประมวลรัษฎากร มาตรา 69 ทวิ ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องหักไว้ณ ที่จ่ายดังที่จำเลยฎีกา แต่ปรากฎว่า ตามสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์ จำเลย ข้อ ซี 5 ว่า ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระภาษีการค้า ซึ่งถ้าเป็นดังนั้น จำเลยก็หักภาษีการค้าจากโจทก์ไม่ได้ คำขอของจำเลยในข้อนี้จึงยังไม่แน่นอนทั้งการที่จำเลยมีหน้าที่หักภาษีตามประมวลกฎหมายรัษฎากรนั้น เป็นเรื่องที่จำเลยอาจดำเนินการได้เองอยู่แล้ว ศาลฎีกายังไม่เห็นสมควร พิพากษาให้หักภาษีจากราคาเครื่องสูบน้ำที่จำเลยต้องจ่ายให้โจทก์ศาลอุทธรณ์พิพากษาในข้อนี้ ชอบแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน1,100,801.33 บาท แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2522 จนกว่าจะชำระเสร็จ.