คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1546/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คดีเดิมซึ่งโจทก์ฟ้อง ร. เป็นจำเลยที่ 1 และฟ้องจำเลยที่ 1คดีนี้เป็นจำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องในส่วนของจำเลยที่ 1 โดยฟังว่าจำเลยที่ 1 รับโอนที่พิพาทมาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน คำพิพากษาดังกล่าวย่อมมีผลผูกพันคู่ความในคดีเดิม จนกว่าจะถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไข กลับหรืองดเสีย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคแรก ดังนั้นในช่วงเวลาที่คดีเดิมอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ การที่จำเลยที่ 1 จดทะเบียนโอนขายที่พิพาทให้แก่จำเลยที่ 2 แล้วจำเลยที่ 2นำไปจดทะเบียนจำนองไว้กับจำเลยที่ 3 ย่อมไม่อาจนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 มาใช้บังคับได้เพราะยังไม่มีหนี้ที่จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดต่อโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจร้องขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการขายที่พิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และนิติกรรมจำนองระหว่างจำเลยที่ 2กับจำเลยที่ 3 ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2532 นางเรณูทำสัญญาจะซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 35615 จากนายติ๊บ แล้วนางเรณูทำสัญญาจะขายที่ดินดังกล่าวให้แก่โจทก์ ต่อมาจำเลยที่ 1 รับโอนที่ดินดังกล่าวจากนายติ๊บไว้แทนนางเรณูโดยจำเลยที่ 1 ไม่สุจริตและมิได้เสียค่าตอบแทน เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2533 โจทก์ยื่นฟ้องนางเรณูและจำเลยที่ 1 ต่อศาลชั้นต้นให้บังคับจำเลยที่ 1จดทะเบียนโอนที่พิพาทคืนนางเรณู กับให้นางเรณูจดทะเบียนโอนขายที่พิพาทแก่โจทก์ คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 7ธันวาคม 2533 ปรากฏตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1925/2533 โดยวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 รับโอนที่พิพาทโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนโจทก์ไม่มีสิทธิบังคับจำเลยที่ 1 จดทะเบียนโอนขายที่พิพาทให้โจทก์โจทก์คงมีสิทธิบังคับคดีได้เฉพาะนางเรณูเท่านั้น โจทก์อุทธรณ์ปัจจุบันคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 2ต่อมาวันที่ 18 มีนาคม 2534 จำเลยที่ 1 จดทะเบียนโอนขายที่พิพาทให้จำเลยที่ 2 โดยทราบอยู่แล้วว่าที่พิพาทกำลังเป็นคดีความกันและเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2534 จำเลยที่ 2 ได้จดทะเบียนจำนองที่พิพาทเป็นประกันหนี้ไว้แก่จำเลยที่ 3 โดยจำเลยที่ 3 ทราบดีอยู่แล้วว่าโจทก์กำลังฟ้องร้องบังคับจำเลยที่ 1 ให้โอนที่พิพาทคืนนางเรณูแล้วให้นางเรณูขายที่พิพาทให้โจทก์ต่อไป การกระทำของจำเลยทั้งสามดังกล่าวเป็นไปโดยไม่สุจริตและรู้อยู่แล้วว่าเป็นทางให้โจทก์เสียเปรียบ โจทก์จึงฟ้องเป็นคดีนี้ ขอให้เพิกถอนการซื้อขายที่พิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และเพิกถอนการจำนองที่พิพาทระหว่างจำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 3 ให้จำเลยทั้งสามไปจดทะเบียนเพิกถอนการซื้อขายและจำนองต่อเจ้าพนักงานที่ดิน หากจำเลยทั้งสามไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้วมีคำสั่งว่า พิเคราะห์คำฟ้องของโจทก์แล้วไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้โจทก์ แม้จะได้ความว่าจำเลยที่ 1 ขายที่ดินให้จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 2 นำที่ดินไปจดทะเบียนจำนองไว้แก่จำเลยที่ 3 อันถือได้ว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3เป็นบุคคลภายนอกก็ตาม เมื่อคำฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้โจทก์ การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงไม่เป็นการโต้แย้งต่อสิทธิของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 และเมื่อโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ตามเหตุผลดังกล่าวแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเช่นเดียวกัน จึงให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าศาลชั้นต้นควรรับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาหรือไม่ ปรากฏตามคำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1925/2533 ของศาลชั้นต้นเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข2 ที่โจทก์ฟ้องนางเรณู เมฆอุไร เป็นจำเลยที่ 1 และฟ้องจำเลยที่ 1 ในคดีนี้เป็นจำเลยที่ 2 ว่า ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 ในคดีนี้โดยฟังว่า จำเลยที่ 1 รับโอนที่พิพาทมาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน คำพิพากษาของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงผูกพันคู่ความในคดีนั้น จนกว่าจะถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไข กลับหรืองดเสียทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคแรกฉะนั้นในขณะที่โจทก์ฟ้องคดีนี้จึงยังไม่มีหนี้ที่จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งก็คือโจทก์มิได้เป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 1นั่นเอง ดังนั้นการที่จำเลยที่ 1 จดทะเบียนโอนขายที่พิพาทให้แก่จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 2 นำไปจดทะเบียนจำนองไว้แก่จำเลยที่ 3ย่อมมิอาจจะนำบทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237มาใช้บังคับได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจร้องขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมขายที่พิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และนิติกรรมจำนองระหว่างจำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 3 ได้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่โจทก์อ้างมาในฎีกาข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยไม่รับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share