คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2554

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานขับรถโดยประมาท จำคุก 4 ปี ฐานหลบหนีและไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำคุก 2 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 ปี 2 เดือน ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยที่ 1 หนึ่งในสี่ตาม ป.อ. มาตรา 78 คงลงโทษฐานขับรถโดยประมาทจำคุก 3 ปี ฐานหลบหนีและไม่แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จำคุก 45 วัน รวมจำคุก 3 ปี 45 วัน จึงเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้ไขเล็กน้อยและลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 แต่ละกระทงไม่เกินห้าปี จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าพยานหลักฐานโจทก์รับฟังได้ว่าเหตุตามฟ้องไม่ได้เกิดจากความประมาทของจำเลยที่ 1 เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ภาค 3 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (4), 78, 157, 160 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 300, 91
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 300 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (4), 78 (ที่ถูก มาตรา 78 วรรคหนึ่ง) 157, 160 วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานขับรถโดยประมาทให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกคนละ 4 ปี ฐานหลบหนีและไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำคุกคนละ 2 เดือน รวมจำคุกคนละ 4 ปี 2 เดือน คำขออื่นให้ยก
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสี่แล้ว ฐานขับรถโดยประมาท จำคุก 3 ปี ฐานหลบหนีและไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำคุก 45 วัน รวมจำคุก 3 ปี 45 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานขับรถโดยประมาท จำคุก 4 ปี ฐานหลบหนีและไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำคุก 2 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 ปี 2 เดือน ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยที่ 1 หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงลงโทษฐานขับรถโดยประมาท จำคุก 3 ปี ฐานหลบหนีและไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำคุก 45 วัน รวมจำคุก 3 ปี 45 วัน จึงเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้ไขเล็กน้อยและลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 แต่ละกระทงไม่เกินห้าปี จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าพยานหลักฐานโจทก์รับฟังได้ว่าเหตุตามฟ้องไม่ได้เกิดจากความประมาทของจำเลยที่ 1 เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ภาค 3 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 1 มานั้นเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาของจำเลยที่ 1

Share