คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ธนาคารจำเลยนำเช็คซึ่งระบุชื่อโจทก์เป็นผู้รับเงินและเป็นเช็คขีดคร่อมเฉพาะมีคำสั่งในระหว่างเส้นขีดคร่อมนั้นว่า ACCOUNT PAYEE ONLY ไปเข้าบัญชีของจำเลยร่วม โดยกระทำไปตามคำสั่งของจำเลยร่วมซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการของโจทก์ มีอำนาจสั่งจ่ายเงินจากบัญชีของโจทก์ได้ ทั้งไม่ได้ความว่าการที่จำเลยไม่นำเงินตามเช็คดังกล่าวมาเข้าบัญชีโจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ต้องเสียหายธนาคารจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คแก่โจทก์
เช็คที่มีข้อความครบถ้วนตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988 แล้ว ถึงแม้จะใช้ถ้อยคำว่า’โปรดจ่าย’ หรือใช้ถ้อยคำว่า ‘ให้ใช้เงิน’ ก็ย่อมมีความหมายอย่างเดียวกันว่าให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คนั้นจึงเป็นเช็คที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้รับชำระหนี้เป็นเช็คระบุชื่อโจทก์เป็นผู้รับเงินและเป็นเช็คขีดคร่อมเฉพาะมีคำสั่งในระหว่างเส้นขีดคร่อมนั้นว่า “ACCOUNT PAYEE ONLY” แปลว่าบัญชีผู้รับเงินเท่านั้น เช็คดังกล่าวนายเฉลิมพงศ์ จันทร์เพ็ญ กรรมการผู้จัดการของโจทก์นำมาเข้าบัญชีส่วนตัวของนายเฉลิมพงศ์ที่ธนาคารจำเลยสาขาคลองจั่น ด้วยความร่วมมือ ของเจ้าหน้าที่จำเลย โดยจำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าเช็คขีดคร่อมเฉพาะซึ่งระบุชื่อโจทก์เป็นผู้รับเงินเช่นนี้จะนำเงินไปเข้าบัญชีของผู้อื่นไม่ได้ การกระทำของเจ้าหน้าที่จำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายจึงขอให้บังคับให้จำเลยชดใช้เงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า เอกสารท้ายฟ้องมิใช่เป็นเช็คเพราะใช้คำว่า”โปรดจ่าย” ซึ่งเป็นการขอร้องให้จ่ายเงินเท่านั้นมิใช่คำสั่งอันปราศจากเงื่อนไขให้ใช้เงินจำนวนแน่นอน จำเลยได้จ่ายเงินที่เรียกเก็บให้แก่นายเฉลิมพงศ์ จันทร์เพ็ญ กรรมการผู้จัดการของโจทก์ไปโดยสุจริต มิได้กระทำการใด ๆ อันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ นายเฉลิมพงศ์เป็นกรรมการผู้จัดการของโจทก์ได้เปิดบัญชีกระแสรายวันไว้กับธนาคารจำเลย การที่นายเฉลิมพงศ์นำเอกสารท้ายฟ้องมามอบให้ธนาคารจำเลย สาขาคลองจั่นเรียกเก็บเงินเป็นการกระทำแทนโจทก์และเพื่อประโยชน์ของโจทก์
นายเฉลิมพงศ์ จันทร์เพ็ญ ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นจำเลยร่วมศาลชั้นต้นอนุญาต นายเฉลิมพงศ์ให้การว่าเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทโจทก์ ในระหว่างบัญชีส่วนตัวกับบัญชีของบริษัทโจทก์ได้มีการนำเงินเข้าและออกตลอดเวลา การที่นำเงินตามเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีส่วนตัวเพื่อความสะดวกในการจ่ายเงินและได้นำเงินตามเช็คพิพาทไปใช้ในกิจการของโจทก์
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า ขณะที่โจทก์ให้จำเลยเรียกเก็บเงินตามเช็คพิพาทนั้น นายเฉิลมพงศ์เป็นกรรมการผู้จัดการของโจทก์มีอำนาจสั่งจ่ายเช็คและรับเงินแทนโจทก์อยู่แล้ว การที่นายเฉิลมพงศ์ให้ธนาคารจำเลยนำเงินตามเช็คเข้าบัญชีส่วนตัวของนายเฉลิมพงศ์และธนาคารจำเลยได้ปฏิบัติตามนั้น ไม่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ของจำเลยได้กระทำไปโดยทุจริต จึงไม่เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่าบริษัทโจทก์ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดเมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน๒๕๒๒ มีกรรมการ ๔ คน ซึ่งมีนายเฉิลมพงศ์ จำเลยร่วม เป็นกรรมการอยู่ด้วยผู้หนึ่ง ดังปรากฏตามภาพถ่ายหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เอกสารหมาย จ.๓ ในขณะที่โจทก์จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทนั้น เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๒โจทก์ได้เปิดบัญชีกระแสรายวันไว้ที่ธนาคารจำเลยสาขาคลองจั่น โดยระบุเงื่อนไขในการเบิกเงินไว้ว่า ให้นายเฉลิมพงศ์ จำเลยร่วม หรือนายธวัชชัย ถิรวัฒนกุล คนใดคนหนึ่งมีอำนาจสั่งจ่ายเงินจากบัญชีนี้ได้ แต่ในทางปฏิบัตินั้นโจทก์ได้มอบหมายให้นายเฉลิมพงศ์จำเลยร่วมซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการ มีหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการของโจทก์ตลอดจนควบคุมดูแลด้านการเงินแต่ผู้เดียว ในเดือนธันวาคม ๒๕๒๒ สถานฑูตออสเตรเลียได้จ่ายเงินค่าจ้างให้โจทก์ ๓๓๘,๔๗๐ บาท โดยจ่ายเป็นเช็คธนาคารเมอร์แคนไตล์ จำกัด ลงวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๒๒ ระบุชื่อโจทก์เป็นผู้รับเงินเป็นเช็คขีดคร่อม ในระหว่างเส้นขีดคร่อมนั้นมีข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า ACCOUNT PAYEE ONLYซึ่งแปลว่าบัญชีของผู้รับเงินเท่านั้น หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเป็นทำนองห้ามเปลี่ยนมือจำเลยร่วมได้รับเช็คนั้นมา แล้วนำไปเข้าบัญชีส่วนตัวของจำเลยร่วมซึ่งเปิดไว้ที่ธนาคารจำเลย สาขาคลองจั่นทางธนาคารจำเลยได้จัดการเรียกเก็บให้ตามนั้น
ปัญหาวินิจฉัยมีว่า การที่เช็คพิพาทได้ระบุชื่อโจทก์เป็นผู้รับเงิน และเป็นเช็คขีดคร่อม โดยในระหว่างเส้นขีดคร่อมนั้นมีข้อความภาษาอังกฤษเป็นใจความว่าบัญชีผู้รับเงินเท่านั้น หรืออีกนัยหนึ่งเป็นทำนองห้ามเปลี่ยนมือ ซึ่งในกรณีเช่นนี้ธนาคารจำเลยกลับนำเงินตามเช็คที่เรียกเก็บมานั้นไปเข้าบัญชีส่วนตัวของจำเลยร่วม การที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อความในเช็คเช่นนี้ จำเลยจะต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คนั้นให้แก่โจทก์ตามฟ้องหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ถึงแม้เช็คพิพาทจะมีข้อความในระหว่างเส้นขีดคร่อมนั้นว่าACCOUNT PAYEE ONLY ที่ด้านหน้าเช็ค ซึ่งมีความหมายว่า ต้องนำเงินเข้าบัญชีของโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงเท่านั้น หรือเป็นทำนองห้ามเปลี่ยนมือหรือห้ามโอนก็ตาม การที่ธนาคารจำเลยนำเงินตามเช็คมาเข้าบัญชีของจำเลยร่วม ก็เป็นการกระทำไปตามคำสั่งของจำเลยร่วมซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการของโจทก์ มีอำนาจสั่งจ่ายเงินจากบัญชีของโจทก์ได้ ถ้าจำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของจำเลยร่วมโดยนำเงินตามเช็คพิพาทเข้าบัญชีของโจทก์ไป จำเลยร่วมก็ย่อมมีอำนาจสั่งจ่ายหรือถอนเงินจากบัญชีของโจทก์ไปเข้าบัญชีส่วนตัวได้อยู่นั่นเองทั้งคดีก็ไม่ได้ความว่า การที่จำเลยไม่นำเงินตามเช็คพิพาทมาเข้าบัญชีของโจทก์นั้นเป็นเหตุให้โจทก์ต้องเสียหายกลับได้ความว่าเมื่อนำเงินมาเข้าบัญชีส่วนตัวแล้วจำเลยร่วมได้ถอนเงินนั้นไปใช้จ่ายในกิจการของโจทก์อีกด้วยที่โจทก์นำสืบว่าเงินขาดบัญชีไป๗๐๐,๐๐๐ บาทเศษนั้น ก็ไม่ได้ความว่าเป็นผลสืบเนื่องโดยตรงมาจากการที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อความในเช็ค ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นฟ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
ส่วนข้อที่จำเลยแก้ฎีกาว่า เช็คพิพาทไม่ใช่เช็คตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เพราะใช้คำว่า “โปรดจ่าย” ไม่ใช่ “คำสั่งอันปราศจากเงื่อนไขให้ใช้เงินจำนวนแน่นอน” นั้น เห็นว่า เช็คพิพาทมีข้อความครบถ้วนตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙๘๘ นั้นแล้ว ถึงแม้จะใช้ถ้อยคำว่า “โปรดจ่าย” หรือใช้ถ้อยคำว่า”ให้ใช้เงิน” ก็ย่อมมีความหมายอย่างเดียวกันว่าให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คนั้น ข้ออ้างของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share