แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์กระทำผิดตาม พ.ร.บ.รถยนตร์และ พ.ร.บ.จราจรเจ้าพนักงานสั่งให้จับและใส่กุญแจมือและกำชัยมิให้มีประกันนั้น อาจไม่ชอบด้วยประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.83 คดีย่อมเป็นมูลความผิดตามกฎหมายอาญา ม.270 ได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทำผิด พ.ร.บ.รถยนตร์ และ พ.ร.บ.จราจรอันเป็นความผิดที่โจทก์จะถูกปรับ จำเลยผู้จับไม่มีอำนาจสั่งให้พลตำรวจใส่กุญแจมือโจทก์ไปส่งสถานีตำรวจและกำชับมิให้มีประกัน เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความอัปยศและปราศจากอิสสระภาพ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญา ม.๒๗๐
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยเป็นนายตำรวจเป็นเจ้าพนักงานจับกุมผู้กระทำผิด จำเลยย่อมมีอำนาจทำได้ตามกฎหมาย ฟ้องโจทก์ไม่มีมูลไม่จำต้องไต่สวนมูลฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเมื่อจำเลยมีอำนาจจับแล้ว ก็ต้องมีอำนาจควบคุมด้วยการใส่กุญแจมือเป็นวิธีอย่างหนึ่งแห่งการควบคุมจึงหาทำให้จำเลยต้องมีผิดตามฐานที่โจทก์กล่าวหานี้ไม่ จึงพิพากษายืน
โจทก์ ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ทำผิดในคดีอาญาเพียงโทษปรับเล็กน้อย จำเลยบังอาจสั่งให้ตำรวจจับโจทก์ใส่กุญแจมือและกำชับมิให้มีประกันโดยเจรนาจะให้โจทก์ได้รับอัปยศและปราศจากความอิสสระภาพ จึงมีมูลแห่งความผิดตามกฎหมายที่โจทก์อ้าง จริงอยู่จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีอำนาจจับกุม แต่ต้องใช้วิธีจับและควบคุมในขอบเขตต์ที่ชอบด้วยประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๘๓ จึงพิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องต่อไป