แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ตายกับพวกมีเหล็กขูดชาร์ฟทำร้ายพวกจำเลยและวิ่งตามมาจะทำร้ายอีก. จำเลยทราบเรื่องก็โกรธ จึงถือมีดปังตอออกมาหาผู้ตายกับพวก. ผู้ตายกับพวกได้วิ่งหนีไปจำเลยวิ่งไล่ทันแล้วเกิดต่อสู้กับผู้ตาย.เหตุที่จำเลยวิ่งไล่เพราะผู้ตายกับพวกมาทำร้ายพวกจำเลยอันเป็นการสมัครใจวิวาทกัน. จึงไม่เป็นการป้องกันตัวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองสมคบกันทำร้ายนายยินเหว่ง แซ่ฝ่ง โดยเจตนาฆ่าให้ตายและต่อมานายยินเหว่งได้ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 และริบของกลาง จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 288 จำคุก15 ปี ให้การภาคเสธเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 4ตามมาตรา 78 คงจำคุกไว้ 11 ปี 3 เดือน ริบของกลาง ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการป้องกัน ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ก่อนเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ได้ออกจากบ้านจะไปหาเพื่อนพบผู้ตายกับพวกที่มุมรั้วบ้าน ได้ถูกผู้ตายแทงด้วยเหล็กขูดชาร์ฟที่ข้อมือซ้าย จึงวิ่งหนีเข้าบ้าน ผู้ตายกับพวกวิ่งตามมาจะทำร้ายอีก จำเลยที่ 1 ทราบเรื่องก็โกรธ ถือมีดปังตอออกมาหาผู้ตายกับพวกผู้ตายกับพวกได้วิ่งหนีไป จำเลยที่ 1 ได้วิ่งไล่ไปจนทันแล้วเกิดต่อสู้กับผู้ตาย เป็นการสมัครใจวิวาทกัน จึงไม่เป็นการป้องกันตัว พิพากษายืน.