คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254 ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่าให้จำคุกจำเลยเพียง 6 เดือนและให้รอการลงโทษจำเลยตามมาตรา 41 ที่แก้ไขใหม่มีกำหนด 5 ปี นอกจากนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนี้เป็นแก้มาก คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 218.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๔ มิ.ย. ๒๔๙๙ เวลากลางวันจำเลยมีอาวุธปืนสมคบกันใช้พานท้านปืนตีทำร้ายร่างกายพระภิกษุทองสุข บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดตำบลพนอม จังหวัดนครพนม ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๕๖,๒๕๔,๖๓.
จำเลยทั้ง ๔ คนปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๕๔ ให้ลงโทษจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน จำเลยนอกนั้นไม่ได้ร่วมกระทำผิด ให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า ให้กำหนดโทษจำคุกจำเลยที่ ๑ เพียง ๖ เดือน และให้รอการลงโทษตามมาตรา ๔๑ ที่แก้ไขมีกำหนด ๕ ปี นอกจากที่แก้ไขนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นตัดสินให้ลงโทษจำคุกจำเลย แต่ศาลอุทธรณ์ไม่ลงโทษจำเลย โดยให้รอการลงโทษไว้จะเรียกว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นหรือแก้ไขเล็กน้อยตามความในมาตรา ๒๑๘ แห่ง ป.วิ.อาญาหาได้ไม่ ต้องเรียกว่าแก้มาก ซึ่งคู่ความฎีกา (ในข้อเท็จจริงได้)
ส่วนข้อเท็จจริงนั้นเห็นว่าจำเลยกระทำอย่างวู่วามมาก กระทำแก่พระภิกษุทองสุขเป็นที่น่าสังเวชสลดใจอย่างทารุณ ไม่เห็นแก่ผ้ากาสาวพัสตร์ แม้กระทำแก่บุคคลธรรมดาก็ไม่บังควร ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษมานั้นสามควรแก่ความผิดแล้ว
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า ให้บังคับคดียืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share