คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1784/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การบอกเลิกสัญญาเช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันมาตรา 16 ข้อ 4 นั้น หมายถึงในกรณีที่ผู้เช่าทำทรัพย์ที่เช่าให้เป็นไปในทางที่เสื่อมเสีย

ย่อยาว

ได้ความว่า จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าได้รื้อถอนดัดแปลงห้องเช่าโดยรื้อครัวด้านหลังห้อง ซึ่งเดิมชั้นเดียวเปลี่ยนแปลงเป็น 2 ชั้นโจทก์ฟ้องขับไล่ เรียกค่าเสียหายและให้ชำระค่าเช่าที่ค้าง โดยอ้างว่าเจ้าของที่ดินซึ่งโจทก์เช่าปลูกห้องเช่ารายนี้ห้ามไม่ให้แก้ไขปลูกสร้างหรือทำการใดก่อนได้รับอนุญาต

จำเลยให้การว่า ได้ดัดแปลงต่อเติมสถานที่เช่าจริงโดยโจทก์ยินยอม และให้สภาพดีขึ้น โจทก์ไม่เสียหายอะไร ฟ้องเคลือบคลุมค่าเช่าจำเลยไม่ได้ผิดนัด

ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยดัดแปลงต่อเติมห้องเช่าโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ จำเลยไม่นำสืบหักล้างข้อที่ทำให้เคหะนี้กลับคืนสภาพเดิมซึ่งโจทก์นำสืบได้ว่าต้องใช้เงิน 3,000 บาท พิพากษาให้จำเลยใช้ค่ารื้อถอน 3,000 บาท หรือให้จำเลยรื้อถอนเคหะให้กลับคืนสู่สภาพเดิมเอง กับชำระค่าเช่าที่ค้าง คำขอนอกนั้นยก

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้รื้อครัวด้านหลัง ซึ่งเดิมชั้นเดียวเปลี่ยนแปลงเป็น 2 ชั้น ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์จะบอกเลิกสัญญาทันทีไม่ได้ ต้องให้จำเลยแก้ไขให้ดีเสียก่อนตามมาตรา 554 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่โจทก์เถียงว่า ได้บอกกล่าวให้จำเลยแก้ไขแล้วเป็นการเถียงข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ได้ชี้ขาดไว้แล้ว และศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาในข้อเท็จจริง จึงไม่วินิจฉัยส่วนที่โจทก์อ้างว่ามีสิทธิเลิกสัญญาเช่าได้ตามมาตรา 16 ข้อ 4แห่งพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ นั้น บทกฎหมายดังกล่าวหมายความว่า ผู้เช่าทำทรัพย์ที่เช่าให้เป็นไปในทางที่เสื่อมเสีย แต่การที่ผู้เช่าได้ทำครัวชั้นเดียวให้เป็น 2 ชั้นนั้น จะถือว่าเป็นการทำให้เสื่อมเสียมิได้

พิพากษายืน

Share