แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
แม้การขนส่งสินค้าตามฟ้องผู้ขายหรือผู้เอาประกันภัยตกลงว่าจ้างจำเลยให้ทำการขนส่งแบบสินค้าทั่วไป โดยมีเงื่อนไขข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งในความเสียหายหรือสูญหายของสินค้าที่ขนส่งก็ตาม แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยปล่อยปละละเลยไม่ดูแลรักษาสินค้าตามฟ้องอันเป็นการผิดวิสัยผู้ประกอบวิชาชีพขนส่งทำให้สินค้าตามฟ้องสูญหาย ถือเป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง สัญญาขนส่งทางอากาศตามฟ้องมีข้อตกลงจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งไม่เกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อการขนส่งสินค้าครั้งนี้ แต่สัญญาขนส่งทางอากาศเป็นลักษณะของสัญญาต่างตอบแทนอย่างหนึ่ง ย่อมตกอยู่ภายใต้บังคับแห่ง ป.พ.พ. มาตรา 373 ดังนั้น ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามสัญญาขนส่งทางอากาศตามฟ้อง ย่อมไม่อาจใช้บังคับได้ในกรณีที่ผู้ขนส่งกระทำการโดยฉ้อฉลหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ข้อจำกัดดังกล่าวจึงไม่อาจใช้บังคับแก่จำเลยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้เงินจำนวน 279,401.89 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 269,010 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 269,010 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2549 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า ข้อจำกัดความรับผิดตามสัญญาขนส่งตามฟ้องใช้บังคับแก่จำเลยได้หรือไม่ จำเลยอุทธรณ์ว่า หากผู้เอาประกันภัยต้องการให้จำเลยรับผิดในความเสียหายหรือสูญหายเพิ่มขึ้นจากข้อจำกัดความรับผิดตามสัญญาขนส่งหรือต้องการให้จำเลยรับผิดตามราคาสินค้าที่เสียหายหรือสูญหายทั้งหมด ผู้เอาประกันภัยก็ต้องจ่ายค่าระวางและค่าธรรมเนียมการขนส่งเพิ่มขึ้นจากอัตราปกติ และโจทก์มิได้นำสืบพิสูจน์ให้เห็นว่าจำเลยทุจริตหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หรือละเลยไม่ดูแลการขนส่งสินค้าอย่างไร จึงฟังไม่ได้ว่าสินค้าตามฟ้องสูญหายเพราะเกิดจากการทุจริตหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลย ความรับผิดของจำเลยจึงจำกัดเพียง 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3,788 บาท นั้น เห็นว่า แม้การขนส่งสินค้าตามฟ้องผู้ขายหรือผู้เอาประกันภัยตกลงว่าจ้างจำเลยให้ทำการขนส่งแบบสินค้าทั่วไป โดยมีเงื่อนไขข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งในความเสียหายหรือสูญหายของสินค้าที่ขนส่งก็ตาม คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้ขนส่งสินค้ารายนี้ มีหน้าที่ดูแลระมัดระวังสินค้ามิให้สูญหายในระหว่างการขนส่งเพื่อไปส่งให้ถึงมือผู้ซื้อ แต่ปรากฏว่าจำเลยมิได้ดูแลสินค้า ปล่อยปละละเลยเสียจนเป็นเหตุให้ไม่สามารถติดตามหรือตรวจสอบได้ว่าสินค้าตามฟ้องไปอยู่ ณ ที่ใด และโจทก์มีนางสาวอนงค์ พนักงานโจทก์เป็นพยานเบิกความประกอบบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงว่า เมื่อจำเลยรับมอบสินค้าจากผู้เอาประกันภัยแล้ว ผู้เอาประกันภัยได้แจ้งให้ผู้ซื้อทราบแต่เมื่อผู้ซื้อติดต่อขอรับสินค้าจากจำเลย จำเลยกลับไม่มีสินค้ามอบให้ผู้ซื้อ ผู้ซื้อจึงแจ้งผู้เอาประกันภัยและปฏิเสธไม่ชำระค่าสินค้า ผู้เอาประกันภัยสอบถามจำเลยเพื่อให้ตรวจสอบจำเลยกลับแจ้งว่า ไม่ทราบว่าได้ขนส่งสินค้าไปยังที่ใดและจัดเก็บไว้ที่ใด แต่ต่อมากลับเสนอขอชดใช้ค่าสินค้า 3,788 บาท ซึ่งในคำให้การของจำเลย จำเลยก็มิได้ให้การปฏิเสธว่าจำเลยได้ทำการขนส่งสินค้าดังกล่าวตามสภาพของสินค้าและลักษณะของการว่าจ้างแล้ว ทั้งมิได้นำสืบให้เห็นว่าหลังจากจำเลยรับสินค้าจากผู้เอาประกันภัยเพื่อขนส่งไปยังผู้ซื้อที่สหรัฐอเมริกาแล้ว จำเลยได้ดำเนินการอย่างไร มีการขนส่งสินค้าตามฟ้องทางอากาศโดยสายการบินใด ตั้งแต่เมื่อใด เพื่อไปยังสหรัฐอเมริกา นายธวัช เจ้าหน้าที่ติดตามหนี้สินของจำเลย ซึ่งจำเลยอ้างเป็นพยานเพียงปากเดียวเบิกความตอบคำถามของศาลว่า ผู้เอาประกันภัยเป็นลูกค้าที่มีบัญชีอยู่กับจำเลย ซึ่งในทางปฏิบัติรวมทั้งกรณีพิพาทเป็นกรณีที่ลูกค้าติดต่อให้จำเลยไปรับสินค้าที่สำนักงานของลูกค้า เมื่อรับสินค้าแล้วโดยขั้นตอนปกติจำเลยจะนำไปส่งขึ้นเครื่องบินซึ่งจะต้องมีการชั่งน้ำหนักของสินค้าอีกครั้งหนึ่งหน้าที่ในส่วนนี้พยานไม่ได้รับผิดชอบ พยานไม่ทราบว่าสินค้าตามฟ้องได้สูญหายไปในขั้นตอนใด และเข้าใจว่าจำเลยก็ไม่ทราบเช่นเดียวกันว่าสูญหายในขั้นตอนใด ข้อเท็จจริงจึงต้องฟังตามที่โจทก์บรรยายฟ้องและนำสืบว่า จำเลยปล่อยปละละเลยไม่ดูแลรักษาสินค้าตามฟ้องอันเป็นการผิดวิสัยผู้ประกอบวิชาชีพขนส่งทำให้สินค้าตามฟ้องสูญหาย ถือเป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง แม้สัญญาขนส่งทางอากาศตามฟ้องจะมีข้อตกลงจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งไม่เกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อการขนส่งสินค้าครั้งนี้ แต่สัญญาขนส่งทางอากาศเป็นลักษณะของสัญญาต่างตอบแทนอย่างหนึ่ง ย่อมตกอยู่ภายใต้บังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 373 ที่บัญญัติว่า ความตกลงทำไว้ล่วงหน้าเป็นข้อความยกเว้นมิให้ลูกหนี้ต้องรับผิดเพื่อกลฉ้อฉลหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของตน ท่านว่าเป็นโมฆะ ซึ่งหมายความว่า ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามสัญญาขนส่งทางอากาศตามฟ้อง ย่อมไม่อาจใช้บังคับได้ในกรณีที่ผู้ขนส่งกระทำการโดยฉ้อฉลหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ดังนั้น เมื่อจำเลยผู้ขนส่งกระทำการขนส่งโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ข้อจำกัดความรับผิดตามสัญญาขนส่งทางอากาศตามฟ้องย่อมไม่อาจใช้บังคับแก่จำเลยได้ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ตามฟ้องนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ 3,000 บาท แทนโจทก์