คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1505/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยออกเช็คจำนวนเงิน 30,000 บาทให้โจทก์ เช็คดังกล่าวเป็นเช็คให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ ต่อมาโจทก์ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็ค และส่งมอบเช็คให้ ช. ช. นำเช็คไปเข้าบัญชีของตน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ช. คืนเช็คให้โจทก์ ดังนี้ การที่โจทก์สลักหลังเช็คและส่งมองเช็คให้แก่ ช. ย่อมมีผลเป็นการโอนไปซึ่งบรรดาสิทธิอันเกิดแก่เช็คนั้นแก่ ช. แล้ว ช. จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยตรงหาใช่เป็นตัวแทนในการเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ เมื่อ ช. เป็นผู้ทรงเช็คในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอันเป็นวันเกิดเหตุตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ช. จึงเป็นผู้เสียหาย การที่ ช. คือเช็คให้โจทก์แม้จะเป็นเช็คให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ ก็หามีผลให้โจทก์กลับเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาไม่ โจทก์ไม่มีอำนาจนำเช็คมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คลงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๒๐ จำนวนเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท ชำระหนี้โจทก์ เมื่อเช็คถึงกำหนด โจทก์ให้ธนาคารตามเช็ครับรองการใช้เงินแต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการรับรอง ต่อมาโจทก์นำเช็คไปฝากเข้าบัญชีของผู้มีชื่อยังธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาท่าพระ เพื่อให้เรียกเก็บเงินตามเช็ค แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินในวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๒๐ ให้เหตุผลว่า ” เงินในบัญชีไม่พอจ่าย และ ” การยกเลิกไม่มีผล พร้อมกับมอบเช็คและใบคืนเช็คให้โจทก์ ทั้งนี้จำเลยออกเช็ค โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค หรือออกเช็คโดยในขณะที่ออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ หรือออกเช็คให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีขณะที่ออกเช็คนั้น หรือห้ามธนาคารมิให้จ่ายเงินโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ จำคุก ๔ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะนำคดีมาฟ้อง พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยออกเช็คธนาคารกรุงเทพ จำเลยสาขาสีลม จำนวน ๓๐,๐๐๐ บาทให้โจทก์ เช็คดังกล่าวเป็นเช็คให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ ต่อมาโจทก์ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คและส่งมองเช็คให้นายชูเกียรติ นายชูเกียรตินำเช็คไปเข้าบัญชีของตน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน นายชูเกียรติคืนเช็คให้โจทก์ โจทก์จึงนำเช็คมาฟ้องจำเลย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาว่าโจทก์ยังคงเป็นผู้ทรงเช็คและเป็นผู้เสียหาย เพราะนายชูเกียรติเป็นเพียงตัวแทนโจทก์ในการเรียกเก็บเงินตามเช็ค ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่โจทก์สลักหลังเช็คและส่งมอบเช็คให้แก่นายชูเกียรติย่อมมีผลเป็นการโอนไป ซึ่งบรรดาสิทธิอันเกิดแต่เช็คนั้นแก่นายชุเกียรติแล้ว นายชูเกียรติจึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยตรงหาใช่เป็นตัวแทนในการเรียกเก็บเงินตามเช็คดังข้อฎีกาของโจทก์ไม่ คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๘๖๒/๒๕๑๙ และ ๑๑๐/๒๕๒๐ ที่โจทก์อ้างข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ เมื่อนายชูเกียรติเป็นผู้ทรงเช็คในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอันเปํนวันเกิดเหตุตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจาการใช้เช็ค นายชูเกียรติจึงเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา การที่นายชูเกียรติคืนเช็คให้โจทก์แม้จะเป็นเช็คให้ใช้เงินแก่ผู้ถือก็หามีผลให้โจทก์กลับเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาไม่ โจทก์ไม่มีอำนาจนำเช็คมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย
พิพากษายืน

Share