แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 251,55 จำคุกจำเลย 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 249,53 จำคุก 2 ปี ดังนี้เป็นแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ผู้ตายไล่ตามจะทำร้ายจำเลยเข้าไปในห้องผู้มีชื่อ แล้วมีการต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตาย 5 แห่ง ดังนี้เป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุคดีเข้ามาตรา 249,53 (ประชุมใหญ่)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจใช้มีดปลายแหลมเป็นศาสตราวุธแทงนายตันถึงบาดเจ็บสาหัสหลายแห่ง โดยเจตนาฆ่าให้ตาย นายตันได้ถึงแก่ความตายในวันต่อมาขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249
จำเลยรับว่าทำร้ายผู้ตายจริงเพราะผู้ตายมีศาสตราวุธไล่ทำร้ายจำเลยก่อน จำเลยจึงได้ทำร้ายผู้ตายเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าการที่จำเลยทำร้ายผู้ตายมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251 ฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา และกระทำไปโดยถูกยั่วโทษะ พิพากษาลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251 ประกอบด้วยมาตรา 55 ให้จำคุก 6 ปี ลดฐานปรานีกึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 ปี
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยต้องด้วยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา และเป็นการกระทำฐานป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลย 2 ปี
โจทก์ฎีกาว่าการกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวขอให้ลงโทษตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 251 ประกอบด้วยมาตรา 55 จำคุกจำเลย 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยผิดตามมาตรา 249 ประกอบด้วย มาตรา 53 จำคุกจำเลย 2 ปี ดังนี้เป็นแก้มากฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ศาลฎีกาเห็นว่าผู้ตายร่างใหญ่กว่าจำเลย ต่างไม่มีสาเหตุต่อกัน วันเกิดเหตุจำเลยเป็นหนี้การพนันผู้ตาย 6 บาท ผู้ตายถือสากไล่ตามจำเลย สากหลุดมือจึงหยิบมีดข้างฝาจะเข้าแทงจำเลยมีคนมาห้ามและแย่งมีดไปได้ แต่ผู้ตายยังตามจำเลยเข้าไปในห้อง แล้วมีเสียงต่อสู้กันตึงตังจนฝาเรือนพัง แล้วปรากฏว่านายตันมีแผลถูกแทง 5 แห่ง ศาลฎีกาเห็นว่าการที่ผู้ตายไล่ตามจะทำร้ายจำเลยเข้าไปในห้องผู้มีชื่อแล้วจำเลยจึงแทงเอา นับว่าเป็นการกระทำด้วยความจำเป็นเพื่อป้องกันตัวโดยแท้ เพราะไม่ปรากฏว่าจำเลยจะมีทางหนีต่อไปได้อีก คดีเข้ามาตรา 249-53 ดังคำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์พิพากษายืน