คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 150/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยใช้พายตีผู้ตายซึ่งนั่งเรือลำเดียวกันมาเรือล่ม ผู้ตายจมน้ำตาย เป็นความผิดตาม มาตรา 251

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2496 เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้วัตถุของแข็งโตเท่าด้ามพายพายเรือยาวประมาณ 1 วา เป็นอาวุธ ตีนายวัน รอดทอง หลายแห่ง มีบาดเจ็บสาหัสในขณะที่นั่งมาในเรือลำเดียวกัน โดยจำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ตายและจำเลยอาจแลเห็นผลได้ว่าเรืออาจล่ม และนายวันอาจจมน้ำตายได้และขณะนั้นเรือล่มลง นายวันถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลและการจมน้ำสมเจตนาของจำเลย เหตุเกิดที่ตำบลบางพลับ และตำบลอินทรประมูล จังหวัดอ่างทอง ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249

จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้ว่า ในคืนเกิดเหตุจำเลยกับนายวันนายโหน เสพสุราเมามาก ถึงกับแสดงลิเกกัน เมื่อเลิกแล้ว นายวันให้ไปส่งบ้าน ขณะมาตามทางนายวันทำเรือล่ม ต่างคนต่างว่ายน้ำเข้าหาตลิ่ง แล้วจำเลยกลับบ้านจำเลย

ศาลจังหวัดอ่างทองพิจารณาแล้ว เห็นว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ที่จำเลยไม่ควรมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ก็เพราะการตายของผู้ตายเนื่องจากการจมน้ำ ไม่ใช่เนื่องจากการทำร้ายของจำเลย จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254 ให้จำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยมีประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่มาก จึงปรานีลดโทษให้ตาม มาตรา 59 หนึ่งในสามคงจำคุกไว้มีกำหนด 8 เดือน

โจทก์จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า การตายของนายวันเกิดจากการที่จำเลยทำร้ายและเรือล่ม โดยจำเลยก็เบิกความรับว่าเรือนั้นเพียบเรือล่มขณะที่จำเลยทำร้ายผู้ตาย ผู้ตายถูกตีบริเวณหน้า จึงไม่อาจเอาตัวรอดจากเรือล่มมาได้ จำเลยควรมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาจึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ว่าจำเลยมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251 ให้จำคุกจำเลย 4 ปี คำให้การจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3ตาม มาตรา 59 คงจำคุกจำเลยไว้ 2 ปี 8 เดือน

โจทก์ฎีกาว่าจำเลยควรมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาความตามพยานหลักฐานในสำนวนว่า จำเลยกับผู้ตายไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2496 เวลา 19.00 นาฬิกานายวันผู้ตาย กับจำเลยและนายโหนไปเสพสุราและเล่นลิเกกันที่ร้านนายแจ๋ว จนเวลา 21.00 นาฬิกา แล้วก็พากันพายเรือกลับจำเลยเป็นคนพายท้าย ผู้ตายนั่งกลางนายโหนนั่งหัวเรือ พอเรือถึงหน้าวัดเกาะก็เกิดเถียงกันในเรื่องเงิน แล้วจำเลยใช้ไม้หรือพายตีผู้ตาย 3 ทีเรือก็ล่มลง จำเลยกับนายโหนว่ายน้ำเอาตัวรอดไปได้ ส่วนผู้ตายได้จมน้ำตาย เจ้าหน้าที่พร้อมกับแพทย์ได้ไปทำการชันสูตรพลิกศพผู้ตายมีแผล 4 แห่ง ปรากฏตามรายงานชันสูตรพลิกศพ แพทย์สันนิษฐานว่าถูกของแข็งกระทบ

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงไม่ประจักษ์ว่าจำเลยกับผู้ตายมีสาเหตุกันมาก่อน ในอันที่จะส่อเจตนาว่าจำเลยตั้งใจจะฆ่านายวันให้ถึงแก่ความตายมาแต่เริ่มแรก แม้ในวันนั้นเอง จำเลยกับผู้ตายก็ยังได้ไปร่วมวงเสพสุราและเล่นลิเกด้วยกันที่บ้านนายแจ๋ว เมื่อเลิกแล้ว จำเลยก็ยังได้พายเรือมาส่งผู้ตายด้วย แต่บังเอิญเกิดเถียงกันขึ้นระหว่างทาง จำเลยจึงใช้ไม้หรือพายซึ่งถืออยู่ในขณะนั้นเอง ตีผู้ตาย ผู้ตายมีบาดแผลเพียงฟกช้ำและโลหิตซับเท่านั้นซึ่งโดยปกติแล้วบาดแผลเท่านี้ คงไม่ทำให้นายวันถึงแก่ความตายได้ทั้งต่างคนก็เมาสุรามาด้วยกัน จำเลยจึงไม่ควรมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาดังฎีกาของโจทก์ จำเลยคงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาวางบทกำหนดโทษจำเลยมานั้นชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์

Share