คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เงื่อนไขที่พิมพ์ไว้ในสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า ” เงินรางวัลจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลมาขอรับ ” ก็ดี ” ถ้าผู้ถูกรางวัลไม่สามารถนำสลากที่ถูกรางวัลมาขอรับเงินตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ไม่ว่าเป็นกรณีใด ” ก็เป็นอันไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จ่ายเงินที่อ้างว่าถูกรางวัลนั้น” ก็ดี ยังแปลไม่ได้ว่าถึงแม้จะถูกรางวัลแล้ว ถ้าไม่ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลมาแล้ว จะไม่ได้รับรางวัลตามที่มีสิทธิ
และแม้ว่าเงื่อนไข (ข้อกำหนด)ดังกล่าวจะได้แจกจ่ายและโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียงแล้วก็ตาม ยังหาผูกมัดผู้ซื้อไม่ เพราะเป็นข้อความที่นอกออกไปจากข้อสัญญาที่จำเลยระบุไว้ในสลาก(ว่าจะจ่ายให้แก่ผู้ถูกรางวัล)จึงไม่เป็นเหตุจะให้ถือได้ว่าผู้ซื้อสลากได้รับเอาข้อสัญญาตามข้อกำหนดดังกล่าวนั้นไปด้วย(ฎีกาที่ 1372/2497)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ทำการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลในบังคับบัญชาของจำเลยที่ 2 โจทก์ได้ซื้อสลากงวดประจำวันที่ 30 กรกฎาคม2496 ไปจำหน่าย 110 เล่ม จำหน่ายไปได้ 38 เล่ม ที่เหลือ 72 เล่ม ถูกเพลิงไหม้ ต่อมาปรากฏว่าสลากที่จำเลยที่ 1 ทำการออกงวดประจำวันที่ 30 กรกฎาคม 2496 นั้นตรงกับสลากที่โจทก์ซื้อและเพลิงไหม้ 17 ฉบับรวมเงินรางวัลทั้งสิ้น 6,400 บาทจำเลยทั้งสองไม่ยอมจ่าย ขอให้บังคับ

จำเลยทั้งสองให้การต้องคำกันว่าจำเลยได้พิมพ์เงื่อนไขจ่ายเงินรางวัลไว้ที่สลากทุก ๆ ฉบับว่า “เงินรางวัลจะจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลมาขอรับ” และในหนังสือกำหนดการสลากกินแบ่งก็ได้กำหนดไว้ว่า “ถ้าผู้ถูกรางวัลไม่สามารถนำสลากที่ถูกรางวัลมาขอรับเงินตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ก็เป็นอันไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จ่ายเงินที่อ้างว่าถูกรางวัลนั้น” และเงื่อนไขดังกล่าวนี้ได้ประกาศทางวิทยุกระจายเสียงเพื่อให้ผู้ซื้อสลากทราบแล้ว ผู้ซื้อสลากก็ยอมรับเอาข้อสัญญาตามเงื่อนไขนี้ไปด้วย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยจ่ายเงิน อนึ่งโจทก์ได้แจ้งความสลากถูกเพลิงไหม้ต่ออำเภอตะพานหิน เลขสลากที่แจ้งบางเล่มในฟ้องไม่ตรงกัน

ศาลแพ่งพิพากษาฟังว่าโจทก์ได้ซื้อสลากซึ่งถูกรางวัลตามที่ฟ้องไปและ ถูกเพลิงไหม้เสียจริงเว้นแต่ฉบับที่ 637984 เพราะไม่มีในบัญชีที่ตัวแทนของจำเลยจำหน่าย ส่วนเงื่อนไขและข้อกำหนดตามที่จำเลยต่อสู้นั้นไม่ชัดเจนพอที่จะให้ผู้ซื้อสลากเข้าใจได้ว่าสลากที่ถูกรางวัลแม้เพลิงไหม้ผู้ซื้อก็จะไม่ได้รับรางวัลพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินรางวัลให้โจทก์ 6,200 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์คงเห็นพ้องกับคำวินิจฉัยของศาลแพ่งทุกประการเว้นแต่คดีสำหรับตัวจำเลยที่ 1 ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยที่ 1 ไม่ใช่นิติบุคคลและโจทก์ก็มิได้ฟ้องพลเอกสฤษดิ์เป็นส่วนตัวโจทก์จึงฟ้องจำเลยที่ 1 ไม่ได้จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิด พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียวใช้เงิน 6,200 บาท

จำเลยฎีกาต่อมา

ศาลฎีกาเห็นว่าเรื่องเงื่อนไขในสลากกินแบ่งรัฐบาลนี้ ศาลฎีกาได้วินิจฉัยไว้ในคำพิพากษาฎีกาที่ 1372/2497 คดีระหว่างนายหาจะยาโจทก์ กระทรวงการคลังโดยพลตรีเภา เพียรเลิศบริภัณฑ์ยุทธกิจรัฐมนตรีว่าการที่ 1 พลเอกสฤษดิ์ธนรัชต์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ 2 จำเลยแล้วว่า ไม่มีเหตุผลอย่างใดที่จะแปลข้อกำหนดนั้นว่า ถึงแม้จะถูกรางวัลแล้ว แต่ไม่ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลมาแล้ว จะไม่ได้รับรางวัลตามที่มีสิทธิ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

ส่วนข้อกำหนดที่จำเลยอ้างว่าได้แจกจ่ายและโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียงนั้น เป็นข้อความที่นอกออกไปจากข้อสัญญาที่จำเลยระบุไว้ในสลาก ไม่เป็นเหตุจะให้ถือได้ว่าผู้ซื้อสลากได้รับเอาข้อสัญญาตามกำหนดดังกล่าวนั้นไปด้วย ทั้งตามที่จำเลยนำสืบมาก็ไม่ได้ความเป็นหลักฐานว่าโจทก์ได้รู้ถึงและรับเอาข้อสัญญาตามข้อกำหนดนั้นไว้ด้วยเลย

พิพากษายืน

Share