แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทำผิดในเวลาเป็นโรคจิต ซึ่งผู้กระทำไม่รู้สึกตัวในเวลาที่ทำได้รับการยกเว้นอาญาตาม มาตรา46
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2496 เวลากลางวันจำเลยบังอาจใช้มีดโต้ฟันนายจันทร์ ศักดิ์เดช ถูกท้ายทอยและศีรษะกับตามบริเวณร่างกายส่วนอื่นอีกหลายแห่ง เป็นบาดเจ็บสาหัสโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย แต่มีเหตุขัดขวางเสีย โดยนายจันทร์ ศักดิ์เดช หลบเสีย จำเลยจึงฟันไม่ถนัด ไม่ถูกคอขาดตาย เหตุเกิดที่ตำบลไผ่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249, 60, 256 และริบมีดของกลาง
จำเลยให้การว่า จำเลยทำร้ายนายจันทร์ในเวลาจำเลยวิกลจริตสติวิปลาส ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ฟังว่านายจันทร์กับจำเลยต่างทำร้ายกันไม่ใช่จำเลยทำร้ายฝ่ายเดียว และไม่ใช่เจตนาจะฆ่าให้ตาย จำเลยทำร้ายในเวลาเป็นโรคจิตจำพวกจิตเภท แต่ยังมีสติพอจะรู้ผิดชอบในเวลากระทำ บาดเจ็บของนายจันทร์เป็นบาดเจ็บสาหัส จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256 กำหนดโทษจำคุกจำเลย 4 ปี 6 เดือน ลดหย่อนโทษลงตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 47 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 3 เดือน และลดโทษให้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 59 อีกกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 1 เดือน 15 วัน จำเลยต้องขังมาพอกับโทษแล้ว ให้ปล่อยตัวไป และริบมีดของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นในเวลาที่เกิดสัญญาวิปลาสตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 46 จำเลยไม่ควรได้รับโทษ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ มีดของกลางคืนเจ้าของ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาแล้ว คดีได้ความจากคำพยานโจทก์ว่า บิดานายจันทร์และมารดาจำเลยเป็นสามีภริยากันมาประมาณ 20 ปีแล้ว นายจันทร์เป็นบุตรติดบิดา ส่วนจำเลยเป็นบุตรติดมารดา จำเลยและนายจันทร์รักใคร่ชอบพอกันดี ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันเลย ในวันเกิดเหตุ จำเลยเรียกนายจันทร์ขึ้นไปหาที่เรือนนางทอง และนั่งคุยกัน แล้วจำเลยจึงใช้มีดฟันนายจันทร์จำเลยเป็นคนวิกลจริตสติไม่ปกติมาก่อนเกิดเหตุ ก่อนวันเกิดเหตุ7-8 วัน จำเลยมีอาการวิกลจริตต่าง ๆ บางครั้งถึงกับวิ่งเข้าป่าพวกพี่น้องต้องคอยคุมตัวจำเลยไว้ และเวลาจำเลยจะฟันนายจันทร์นั้นจำเลยมีอาการตาขวางพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง เมื่อจำเลยถูกฟ้องศาลศาลส่งไปให้นายแพทย์โรงพยาบาลโรคจิตตรวจอาการ นายแพทย์ได้ลงความเห็นว่าจำเลยเป็นโรคจิตชนิดเรียกว่าจิตเภท โรคชนิดนี้มีระยะพักหรือระยะการกำเริบของโรค ถ้าหากไปกระทำผิดขึ้นในเวลาที่เป็นโรคนี้ก็อาจจะไม่รู้สึกตัวหรืออาจรู้สึกตัวก็ได้แต่ถึงจะรู้สึกก็หย่อนกว่าคนธรรมดา
จำเลยนำสืบว่า จำเลยเป็นคนสติไม่ดีมาก่อนเกิดเหตุมีอาการหลง ๆลืม ๆ และกลัวคนทำร้าย ตอนเกิดเหตุจำเลยไม่รู้สึกตัวมารู้สึกตัวภายหลังเกิดเหตุแล้วประมาณ 2 เดือน
ศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามคำพยานโจทก์ประกอบข้อนำสืบของจำเลย แสดงว่าจำเลยทำร้ายนายจันทร์ในเวลาวิกลจริตไม่รู้สึกผิดชอบ โดยก่อนวันเกิดเหตุ 7-8 วัน จำเลยก็มีอาการวิกลจริต ก่อนที่จำเลยจะทำร้ายนายจันทร์ผู้ถูกทำร้ายก็ว่าจำเลยมีอาการเดินโซเซตาขวางพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง จำเลยเป็นครูประชาบาลมีความประพฤติเรียบร้อยและรักใคร่ชอบพอกับนายจันทร์ดีเหตุไรจำเลยจะทำร้ายนายจันทร์โดยไม่มีสาเหตุอะไรมาก่อน โรคของจำเลยนั้นตามคำนายแพทย์สุรินทร์นายแพทย์โรงพยาบาลโรคจิต ซึ่งตรวจรักษาจำเลยก็ปรากฏว่าเป็นโรคจิต มีระยะพักและกำเริบ ถ้าหากไปกระทำผิดขึ้นในเวลาที่เป็นโรคนี้ก็อาจจะไม่รู้สึกตัว เพียงแต่ปรากฏจากคำนายจันทร์ว่า ก่อนจะทำร้าย จำเลยปิดประตูห้องนั้นยังไม่พอจะเห็นได้ตระหนักแน่ว่า จำเลยมีสติรู้สึกผิดชอบขณะกระทำผิด ที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นในเวลาที่เกิดสัญญาวิปลาส ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 46 ให้ยกฟ้องโจทก์เสียนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์เสีย