แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ต่างใช้ปืนแก๊บยิงกันฝ่ายละนัด โดยสมัครใจวิวาทกันกระสุนถูกฝ่ายเดียวในที่ไม่สำคัญจึงเพียงแต่มีบาดเจ็บ หากถูกที่สำคัญก็ทำให้ตายได้ ต่างฝ่ายต่างมีความผิดตาม มาตรา 249,60
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2496 เวลากลางวันจำเลยทั้งสองต่างมีปืนเป็นอาวุธและมีเจตนาฆ่าซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 1 ใช้ปืนยิงจำเลยที่ 2 นัดหนึ่ง แต่มีเหตุอันพ้นวิสัยมาขัดขวางโดยกระสุนปืนไม่ถูกจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ใช้ปืนยิงจำเลยที่ 1 นัดหนึ่งกระสุนปืนถูกจำเลยที่ 1 มีบาดเจ็บหลายแห่ง แต่มีเหตุอันพ้นวิสัยมาขัดขวางโดยกระสุนปืนไม่ถูกที่สำคัญจึงไม่ตาย เหตุเกิดที่ตำบลท่าไม้ อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ขอให้ลงโทษ
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ต่างใช้อาวุธปืนยิงซึ่งกันและกันตามฟ้องจริง เนื่องจากจำเลยต่างพูดโต้เถียงทะเลาะกันแล้วจำเลยที่ 1 ใช้ปืนยิงจำเลยที่ 2 ๆ จึงใช้ปืนยิงจำเลยที่ 1 บ้างเพราะต่างกำลังเกิดโทสะ
ศาลชั้นต้นพิจารณาได้ความว่า ณ วันโจทก์หาเวลาประมาณ 9นาฬิกา จำเลยทั้งสองต่างอยู่บนห้างของตนซึ่งยกไปทำนาที่ตำบลท่าไม้ แล้วเกิดโต้เถียงเรื่องแลกของกัน จำเลยที่ 1 เอาลอบแลกกับปีกไม้ของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ว่า ปีกไม้ของจำเลยที่ 2 มีราคาน้อยกว่าลอบ ในที่สุดต่างให้ของลับกันแล้ว เกิดท้าทายให้ไปยิงกัน จำเลยที่ 1 ถือปืนแก๊บและมีดลงไปที่หน้าห้างจำเลยที่ 2 แล้วยิงปืนขึ้นไปบนห้างจำเลยที่ 2 นัดหนึ่ง ทันใดนั้นจำเลยที่ 2 ก็ยิงปืนสวนลงมานัดหนึ่ง กระสุนปืนที่จำเลยที่ 1 ยิงไปถูกฝาใบตองพลวงและซี่ไม้ไผ่ แล้วทะลุไปถูกฝากระดานด้านหลังไม่ถูกจำเลยที่ 2 แต่กระสุนปืนที่จำเลยที่ 2 ยิงสวนลงมาถูกร่างกายจำเลยที่ 1 มีบาดเจ็บหลายแห่ง
ศาลชั้นต้น เห็นว่า จำเลยทั้งสองต่างสมัครใจต่อสู้กันเป็นการสมัครใจเข้าวิวาทกันไม่มีโอกาสจะเลือกทำร้ายที่ตรงไหนตามชอบใจรูปคดีไม่พอฟังว่า เจตนาจะฆ่ากัน จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยไม่เจตนา พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251, 60 ให้จำคุกจำเลยที่ 1 4 ปี จำเลยที่ 2 6 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งตามมาตรา 59 คงจำคุกจำเลยที่ 1 2 ปี จำเลยที่ 2 3ปี ปืนของกลางของจำเลยที่ 2 ให้ริบ
โจทก์อุทธรณ์ ขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249, 60 ตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ เห็นว่า การใช้ปืนยิงคนตามธรรมดาแล้ว ย่อมสันนิษฐานว่า มีเจตนาจะฆ่าให้ตาย เพราะเห็นผลล่วงหน้าได้ว่าถ้ายิงถูกที่สำคัญอาจทำให้ถึงตาย อาวุธปืนที่จำเลยต่างใช้ยิงกันก็มีความแรงพอที่จะทำให้ผู้ถูกยิงในที่สำคัญถึงตายได้ ต้องฟังว่าจำเลยทั้งสองมีเจตนาจะฆ่าให้ตาย แต่ผู้ถูกยิงไม่ตายเพราะมีเหตุสุดวิสัยมาป้องกันขัดขวางเสีย จึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน พิพากษาแก้ว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249, 60 ให้จำคุกคนละ 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ในการพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งตาม มาตรา 59 คงจำคุกคนละ 5 ปีนอกจากที่แก้คงยืน
จำเลยทั้งสองฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาปรึกษาคดีนี้แล้ว ข้อเท็จจริงได้ความตามคำพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยว่า จำเลยทั้งสองต่างใช้ปืนแก๊บยิงซึ่งกันและกันฝ่ายละหนึ่งนัดโดยสมัครใจเข้าวิวาททำร้ายกัน กระสุนปืนที่จำเลยที่ 1 ใช้ยิงไม่ถูกจำเลยที่ 2 โดยพลาดไปถูกฝาใบตองพลวงกระสุนกระจายไปเสียก่อน แต่กระสุนปืนที่จำเลยที่ 2 ใช้ยิงจำเลยที่ 1 ถูกตามร่างกายจำเลยที่ 1 มีบาดเจ็บหลายแห่งแสดงให้เห็นว่าความแรงของกระสุนปืนที่จำเลยต่างใช้ยิงกันนี้หากถูกในที่สำคัญอาจทำให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ รูปคดีควรฟังว่า จำเลยต่างมีเจตนาจะฆ่าให้ถึงตาย แต่ที่ไม่ตายเพราะยิงพลาดไม่ถูกหรือถูกในที่ไม่สำคัญ ซึ่งเป็นเหตุอันพ้นวิสัยมาป้องกันขัดขวางเสีย จำเลยทั้งสองต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนา ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดวางบทกำหนดโทษจำเลยมาชอบแล้ว
จึงให้ยกฎีกาจำเลย โดยพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์