คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1496/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกเช็คพิพาทคืนจากจำเลย โดยอ้างว่าไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระตามเช็คพิพาท โจทก์มิได้ประสงค์ถึงราคากระดาษเช็คและหนี้ซึ่งระงับไปแล้ว จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุขก์อันมิอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตกลงซื้อไม้ท่อนจากโจทก์ โดยจำเลยชำระเงินล่วงหน้า ๑๒๐,๐๐๐ บาท เพื่อให้โจทก์นำไปจัดการซื้อไม้มาขายให้จำเลย ส่วนโจทก์สั่งจ่ายเช็คพิพาทจำนวนเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท เป็นประกันให้จำเลยไว้คิดบัญชีหักทอนเมื่อส่งไม้ท่อนกันแล้ว โจทก์ส่งไม้ท่อนให้แก่จำเลยรวมราคาทั้งสิ้น ๒๕๙,๗๖๗ บาท โจทก์รับเงินค่าไม้จากจำเลยอีก ๑๕๐,๐๐๐ บาท โจทก์ขอให้จำเลยหักทอนบัญชีและชำระเงิน ๔,๗๖๗ บาทที่เหลือ จำเลยกลับนำเช็คพิพาท ไปแจ้งความดำเนินคดีอาญากับโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินที่ค้างชำระ พร้อมคืนเช็คพิพาทให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ขอยืมเงินจำเลยไปจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท และได้พึงจ่ายเช็คพิพาทให้จำเลยไว้ เมื่อเช็คถึงกำหนดจำเลยนำเช็คไปขึ้นเงินแต่ธนาคารปฏิเสธ จำเลยจึงไปร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญาแก่โจทก์ ไม่เกี่ยวกับซื้อขายไม่ท่อนระหว่างโจทก์จำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยคืนเช็คพิพาทแก่โจทก์ คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกเช็คพิพาทคืนจากจำเลย โดยอ้างว่าไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระตามเช็คพิพาท โจทก์มิได้ประสงค์ถึงราคากระดาษเช็คและหนี้ซึ่งระงับไปแล้ว จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุขก์อันมิอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง ๒๐๐ บาท ตามตาราง ๑ (๒) (ก) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่แก้ไขแล้ว แต่จำเลยเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามา ๒,๔๐๐ บาท เกินอัตราตามกฎหมาย
พิพากษายืน และให้คืนค่าขึ้นฎีกาส่วนที่เกิน ๒๐๐ บาทแก่จำเลย

Share