คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายมีปืนและมีดปลายแหลมเป็นอาวุธไปแอบคอยดักทำร้ายจำเลยพอจำเลยมาถึงผู้ตายใช้ปืนยิงจำเลยถูกเฉียดศีรษะมีบาดแผล จำเลยจึงใช้พร้าฟันผู้ตาย ผู้ตายชักมีดแทงจำเลยแล้วเข้ากอดปล้ำแย่งมีดกันแล้วจำเลยได้ใช้มีดพร้าฟันผู้ตายไปหลายที เช่นนี้ เป็นกรณีที่ผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อนโดยใช้ปืนยิงจำเลย จำเลยจึงใช้พร้าฟัน แม้ผู้ตายจะล้มลงไปก็จริง กรณีที่กำลังพัวพันกันอยู่เช่นนั้น จำเลยอาจเกรงว่าผู้ตายจะใช้ปืนหรือใช้มีดแทงอีกก็เป็นได้ จึงจำเป็นต้องใช้พร้าฟันไปอีกหลายที ดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่ใกล้จะถึง การกระทำของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2510 เวลากลางวัน จำเลยได้ใช้มีดพร้าและมีดปลายแหลมฟันแทงทำร้ายนายน้อม ชูแก้ว โดยเจตนาฆ่า และนายน้อมได้ถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่จำเลยทำร้ายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ริบมีดและพร้าของกลาง

จำเลยให้การว่า กระทำไปเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ หากเกินกว่าเหตุไปบ้างก็ด้วยบันดาลโทสะ

ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยทำร้ายผู้ตาย เพื่อให้ตนเองพ้นจากอันตรายที่ใกล้จะถึงและไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงโดยวิธีอื่นได้ และตนเองมิได้ก่อให้เกิดภยันตรายนั้นขึ้น การกระทำของจำเลยไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุจำเลยไม่ควรต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67 พิพากษาว่าจำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด ยกฟ้อง พร้าของกลางคืน มีดให้ริบ

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำคุก 20 ปี ริบพร้าของกลาง มีดคืนเจ้าของ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้ตายถูกจำเลยทำร้ายถึงแก่ความตายเนื่องมาจากผู้ตายโกรธจำเลยที่ไปบอกให้ผู้ตายไปชำระเงินที่อำเภอตามที่บิดาจำเลยสั่งมา จนกล่าวคำอาฆาตว่าจะเอาปืนไปยิงจำเลย และต่อมาในเย็นวันนั้น ผู้ตายมีปืนและมีดไปดักทำร้ายจำเลย พอจำเลยมา ผู้ตายใช้ปืนยิงจำเลยก่อน กระสุนปืนถูกเฉียดศีรษะจำเลยเป็นบาดแผล จำเลยจึงใช้มีดพร้าฟันผู้ตาย ผู้ตายชักมีดแทงจำเลยแล้วเลยกอดปล้ำและแย่งมีดกันแล้วจำเลยก็ใช้พร้าฟันผู้ตายไปหลายที ดังที่นายใจพยานโจทก์แลเห็นเช่นนั้น เห็นได้ว่าเป็นกรณีพัวพันกันโดยผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อนคือใช้ปืนยิงจำเลย จำเลยจึงใช้พร้าฟัน แม้ผู้ตายจะล้มลงไปก็จริง กรณีที่กำลังพัวพันกันอยู่ เช่นนั้นจำเลยอาจเกรงว่าผู้ตายจะใช้ปืนยิงอีกหรือใช้มีดแทงอีกก็เป็นได้ จึงจำเป็นต้องใช้พร้าฟันไปอีกหลายทีการกระทำของจำเลยดังกล่าว เป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง การกระทำของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายจำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68

พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องโจทก์

Share