แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทายาทได้แบ่งปันมรดกกันเป็นส่วนสัดและเข้าครอบครองเป็นกิจปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ภายหลังจะเถียงว่าการแบ่งใช้ไม่ได้ เพราะไม่ได้ทำเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1750 วรรคหลังย่อมไม่ได้เพราะการแบ่งได้กระทำถูกต้องตามมาตรา 1750 วรรคแรกแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาท โดยอ้างว่าเป็นของบิดามารดาโจทก์ แล้วตกทอดเป็นมรดกตกแก่โจทก์จำเลยบุกรุก
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า มรดกรายนี้ได้มีการแบ่งกันในระหว่างทายาทรวมทั้งโจทก์ด้วย ในปีเดียวกับที่โจทก์ฟ้องคดีเฉพาะนาพิพาทตกได้แก่จำเลยครอบครองมาโดยชอบแล้ว สำหรับโจทก์ได้รับส่วนแบ่งนาแปลงอื่นไปแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิอันใดในที่นาพิพาท จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า การแบ่งมรดกมิได้ทำเป็นหนังสือตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1750 วรรคหลัง ต้องเป็นโมฆะ
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามมาตรา 1750 วรรคแรกมีว่า “การแบ่งปันทรัพย์มรดกนั้น อาจทำได้โดยทายาทต่างเข้าครอบครองทรัพย์สินเป็นส่วนสัด”
นารายนี้ได้แบ่งกันเป็นส่วนสัดและเข้าครอบครองแล้ว เป็นกิจปฏิบัติอันถูกต้องตามกฎหมาย โจทก์อ้างวรรคหลังมาตรา 1750 ไม่ตรงกับรูปคดี จึงฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน