คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1477/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้อุทธรณ์คดี แม้ถึงจะเป็นจำเลยในศาลชั้นต้น ก็ถือว่าเป็นโจทก์ในชั้นศาลอุทธรณ์ มีหน้าที่จะต้องนำเจ้าพนักงานศาลไปจัดการส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้อีกฝ่ายในกำหนด 15 วัน มิฉะนั้นศาลถือว่าทิ้งฟ้อง และสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อต้นปี พ.ศ. 2497 โจทก์และจำเลยกับพวกเล่นแชร์กัน โดยจำเลยที่ 2 เป็นนายวง มีข้อตกลงกันว่าผู้เล่นทุกคนต้องส่งเงินเดือนละ 5,000 บาท จนกว่าจะมีผู้ประมูลครบครั้น 18 พฤษภาคม 2497 จำเลยที่ 1 ประมูลแชร์ได้ และมีหน้าที่ส่งเงินให้แก่โจทก์ 5,000 บาท แต่ส่งให้ 2,500 บาท เหลือนั้นอีก 2,500 บาท จำเลยที่ 1 ทำเป็นสัญญากู้ไว้ โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาโจทก์ทวงถามจำเลยไม่ชำระ จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้
ศาลชั้นต้นตัดสินให้จำเลยแพ้คดี
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ แต่มิได้มานำสำเนาอุทธรณ์ส่งให้แก่โจทก์ในกำหนด 15 วัน ศาลแพ่งจึงส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมิได้มานำเจ้าพนักงานไปส่งสำเนาอุทธรณ์แก่โจทก์ใน 15 วัน ถือว่าทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2) จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความศาลอุทธรณ์
จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(2) บัญญัติไว้เพื่อโจทก์ในคดีโดยเฉพาะ ไม่หมายถึงจำเลย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174 (2) นั้นหมายความถึงโจทก์แต่ละชั้นศาล ดังจะเห็นได้จากประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229(1) จึงพิพากษายืน

Share