คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนี้เงินค่าทนายที่ศาลสั่งไว้ในคำพิพากษาให้ผู้แพ้คดีชำระให้แก่ผู้ชนะคดีนั้น เป็นหนี้ร่วม ลูกหนี้จะเลือกชำระให้แก่เจ้าหนี้ร่วมคนใดคนหนึ่งก็ได้

ย่อยาว

คดีชั้นนี้ พิพาทกันชั้นบังคับคดี โดยเดิมโจทก์ฟ้องจำเลยขอให้บังคับให้แก้ชื่อในโฉนด คดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์และให้โจทก์ใช้ค่าทนายชั้นฎีกาแทนจำเลย 6,000 บาท ครบกำหนดคำบังคับนางลุยงจำเลยที่ 1 ได้ร้องว่าโจทก์ยังมิได้ปฏิบัติการชำระค่าทนายขอให้ศาลสั่งยึดทรัพย์ แต่ในวันเดียวกันนั้นเอง นายอรุณ จำเลยในฐานะแทนที่จำเลยที่ 4 ได้แถลงต่อศาลว่า ได้รับเงินค่าทนาย 6,000 บาท จากโจทก์ในฐานะจำเลยที่ 4 และในฐานะสามีจำเลยที่ 1 ไปเรียบร้อยแล้ว

ศาลชั้นต้นสั่งว่า โจทก์ได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ร่วมคนหนึ่งแล้ว เจ้าหนี้ร่วมคนอื่นจะให้โจทก์ต้องรับผิดอีกไม่ได้ ชอบที่จะต้องไปดำเนินคดีเรียกร้องเอาจากเจ้าหนี้ด้วยกันเอง

จำเลยที่ 1, 2, 3 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1, 2, 3 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัย ข้อกฎหมายว่า เมื่อศาลพิพากษาว่า “ให้โจทก์เสียค่าทนายความในชั้นนี้แทนจำเลยอีก 6,000 บาทด้วย” นั้นเป็นการแสดงชัดว่า จำเลยทุกคนเป็นเจ้าหนี้ร่วมในเงินจำนวนนั้น กรณีต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 298 ลูกหนี้จะชำระให้แก่เจ้าหนี้คนใดก็ได้ จึงพิพากษายืน

Share