แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แม้ถั่วฝักยาวที่จำเลยปลูกไว้จะเคยถูกคนร้ายลักไป จำเลยสามารถแจ้งความต่อเจ้าพนักงานเพื่อให้สืบสวนหาตัวคนร้ายได้ แต่จำเลยก็หาดำเนินการไม่ จำเลยกลับพาอาวุธปืนจากบ้านซึ่งอยู่ห่างจากแปลงนาที่ปลูกถั่วฝักยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ติดตัวมาเพื่อรดน้ำและเฝ้าถั่วฝักยาว ทั้ง ๆ ที่ขณะนั้นไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น การกระทำของจำเลยจึงมิใช่กรณีมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ จึงมีความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยพาอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก หมายเลขทะเบียนกท. 2056038 ซึ่งเป็นของจำเลยผู้ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนชั่วคราวติดตัวไปในหมู่บ้าน ถนนทางสาธารณะ บ้านท่ามะนาว ตำบลนาอ้อ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลยโดยไม่มีเหตุสมควร และไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ทั้งไม่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ จำเลยใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงนายม้วน พุทธมาตย์ ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91, 288, 371 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ และริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพข้อหาพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ประกอบมาตรา 68 และมาตรา 69 มาตรา 371 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิวรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานฆ่าคนตายอันเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ จำคุก 6 ปี ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดจำคุก 6 เดือน ฐานแรกทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสาม ฐานที่สองจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานแรกคงจำคุก4 ปี ฐานที่สองจำคุก 3 เดือน รวมจำคุก 4 ปี 3 เดือน ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องในความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุกจำเลยมีกำหนด4 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงตามที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยโดยคู่ความไม่โต้แย้งฟังได้ว่า จำเลยมีที่นาประมาณ 7 ไร่ และมีบ้านพักอยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวในที่นาแล้ว จำเลยจะปลูกถั่วฝักยาวไว้ในบริเวณที่นาประมาณ 2 งาน ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายเข้าไปลักถั่วฝักยาวที่จำเลยปลูกไว้ดังกล่าวไป ในวันเกิดเหตุจำเลยไปรดน้ำและอยู่เฝ้าถั่วฝักยาวโดยจำเลยพาอาวุธปืนลูกซองยาวหมายเลขทะเบียน กท. 2056038 ซึ่งจำเลยเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ติดตัวไปด้วย ต่อมาเวลาประมาณ 20 นาฬิกา ผู้ตายเข้าไปลักถั่วฝักยาวที่จำเลยปลูกไว้จำเลยจึงใช้อาวุธปืนที่พาติดตัวมาดังกล่าวยิงไปหลายนัดเป็นเหตุให้ผู้ตายถูกกระสุนปืนถึงแก่ความตาย มีปัญหาต้องวินิจฉัยฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยมีความผิดฐานพาอาวุธปืนตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า แม้ถั่วฝักยาวที่จำเลยปลูกไว้จะเคยถูกคนร้ายลักไป จำเลยก็สามารถแจ้งความต่อเจ้าพนักงานของบ้านเมืองเพื่อให้สืบสวนหาตัวคนร้าย แต่จำเลยก็หาได้ดำเนินการไม่ แต่จำเลยกลับพาอาวุธปืนจากบ้านซึ่งอยู่ห่างจากแปลงนาที่ปลูกถั่วฝักยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ติดตัวมาเพื่อรดน้ำและเฝ้าถั่วฝักยาว ทั้ง ๆ ที่ขณะนั้นไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น การกระทำดังกล่าวของจำเลยจึงมิใช่กรณีที่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ จำเลยจึงมีความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานนี้ ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง อีกกระทงหนึ่ง เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 6 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน รวมจำคุก4 ปี 3 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4